💥*"ลี ยงพัด" เปิดใจต่อสื่อกัมพูชา ยันไม่มีเอี่ยวสแกมเมอร์ในไทย

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 11, 2025 20:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายลี ยงพัด นักธุรกิจและสมาชิกวุฒิสภากัมพูชา และเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท LYP Group ออกมาปฏิเสธต่อรายงานของสื่อไทยที่ระบุว่า เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการอาชญากรรมทางไซเบอร์และการฟอกเงิน โดยเรียกข้อกล่าวหาเหล่านั้นว่าเป็นข่าวเท็จและสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของเขา

นอกจากนี้ นายลี ยงพัด ปฏิเสธรายงานที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ไทยได้บุกค้นสถานที่ 36 แห่ง และอายัดทรัพย์สินมูลค่า 400 ล้านบาท ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับขบวนการหลอกลวงออนไลน์

'สถานที่ทั้งสามแห่ง บ้านในกรุงเทพ บ้านและที่ดินในจังหวัดตราด และสำนักงานอีกแห่ง เป็นเพียงที่พักอาศัย และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมายใด ๆ' นายลี ยงพัดให้สัมภาษณ์กับ The Phnom Penh Post

'การเผยแพร่ข่าวนี้ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดและทำลายชื่อเสียงของผม' เขากล่าว และเสริมว่า การตรวจค้นสถานที่ทั้ง 3 แห่ง เจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานการกระทำผิดใด ๆ

'การตรวจค้นเป็นไปอย่างถูกต้องและสงบเรียบร้อย แต่สื่อกลับเผยแพร่ภาพข่าวว่า เป็นการบุกจับขบวนการหลอกลวง ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด'

เขาชี้แจงว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของไทย เคยอายัดทรัพย์สินในประเทศไทยมาก่อน แต่ไม่มีรายการใดเป็นชื่อของเขา

นายลี ยงพัด กล่าวเสริมว่า เมื่อสองสัปดาห์ก่อน มีรายงานจากสื่อไทยว่า มีการอายัดเงินจำนวน 350 ล้านบาทภายใต้ชื่อของเขา ซึ่งก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน

'จนถึงขณะนี้มีรายงานเรื่องการอายัดทรัพย์ถึงสามครั้ง แต่ไม่มีแม้แต่บาทเดียวที่เป็นชื่อของผม พวกเขานำชื่อและภาพของผมไปโยงกับข่าวนี้ ซึ่งไม่ยุติธรรมและเป็นข่าวปลอมอย่างชัดเจน'

นายลี ยงพัด กล่าวว่า รายงานเหล่านี้ได้สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อชื่อเสียงของเขา และตั้งคำถามถึงจรรยาบรรณของสื่อไทยที่เผยแพร่ข่าวดังกล่าว

นอกจากนี้ เขาเรียกร้องให้สื่อไทยรายงานความจริง และแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง

'ในฐานะนักธุรกิจ ข่าวที่ทำให้เข้าใจผิดเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ทำลายชื่อเสียงของผม แต่ยังส่งผลกระทบต่อแรงงานชาวกัมพูชาหลายพันคนที่ทำงานในกลุ่มบริษัทของครอบครัวผมด้วย'

นายลี ยงพัด ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากการมีส่วนร่วมในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว และการพัฒนาสังคมในกัมพูชา กล่าวเสริมว่า ข้อกล่าวหาเหล่านี้อาจมีแรงจูงใจทางการเมือง หรือทางธุรกิจอยู่เบื้องหลัง

'ผมอยู่ในธุรกิจกาสิโนมานานกว่า 20 ปี และดำเนินการอย่างถูกกฎหมายเสมอ'

เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจกาสิโนต้องปิดตัวลง นายลี ยงพัดก็ได้หันมาปล่อยเช่าอาคารให้บุคคลภายนอกในรูปแบบที่ถูกต้องตามกฎหมายของกัมพูชา

'ผมกลายเป็นเป้าหมายเพราะผมเป็นประธานสมาคม Oknha เป็นเพื่อนสนิทของผู้นำกัมพูชา และมีธุรกิจอยู่ตามแนวชายแดน'

แม้จะถูกกล่าวหา แต่เขายังคงมั่นใจว่า ความจริงจะปรากฏผ่านกระบวนการทางกฎหมาย

'ผมยังมีความหวัง เพราะข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่เป็นความจริง แม้สถานการณ์ตอนนี้จะยากลำบาก แต่ผมเชื่อว่าความยุติธรรมจะช่วยเคลียร์ชื่อเสียงของผม'

นายลี ยงพัด ซึ่งมีถิ่นกำเนิดจากจังหวัดเกาะกง เล่าย้อนอดีตว่า เขาเคยลี้ภัยไปอยู่ในประเทศไทยในยุคเขมรแดง ก่อนจะกลับมายังกัมพูชาในอีกหลายสิบปีต่อมาเพื่อร่วมลงทุนในการพัฒนาประเทศ

เขากล่าวปิดท้ายว่า เขาไม่มีทรัพย์สินลับใด ๆ ที่จะให้เจ้าหน้าที่มายึด และธุรกิจทั้งหมดของเขาดำเนินอย่างเปิดเผยและถูกต้องตามกฎหมาย

'ผมไม่ได้เปิดศูนย์หลอกลวงทางออนไลน์ ผมสร้างบริษัทด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง และผมมีส่วนร่วมในการพัฒนากัมพูชาเสมอมา' เขากล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ