เจ้าหน้าที่เผยว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในฮ่องกงที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากคนงานใช้ตาข่ายราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐาน ทั้งยังหลีกเลี่ยงการทดสอบจากรัฐ ขณะที่ตำรวจระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตแตะที่ 151 รายแล้ว
เจ้าหน้าที่กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.) ว่า ตัวอย่างวัสดุที่เก็บมาจากบริเวณที่เข้าถึงยากของโครงการที่พักอาศัย "หวั่งฟกคอร์ต" (Wang Fuk Court) ในเขตต่ายโปว ไม่ผ่านการทดสอบความปลอดภัย ในขณะที่ตัวอย่างที่เก็บมาจากชั้นล่างผ่านเกณฑ์ตามกฎหมาย
หวู่ ยิง หมิ่ง หัวหน้าหน่วยงานต่อต้านการทุจริตของฮ่องกง กล่าวว่า หลังจากที่ตาข่ายเดิมได้รับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่น กลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ซื้อตาข่ายที่ไม่ได้มาตรฐานจำนวน 2,300 ม้วน ในราคาเพียงม้วนละ 54 ดอลลาร์ฮ่องกง (7 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเพียงพอสำหรับการคลุมอาคารทั้ง 8 แห่ง ส่วนตาข่ายที่ผ่านมาตรฐานทนไฟราคา 100 ดอลลาร์ฮ่องกงนั้น ซื้อมาเพียง 115 ม้วนเพื่อติดตั้งบริเวณฐานนั่งร้านให้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยเท่านั้น
คริส แต่ง รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงกล่าวในการแถลงข่าวเดียวกันว่า ไฟที่ลุกลามอย่างรวดเร็วมีความเชื่อมโยงกับการใช้ตาข่ายนั่งร้านและแผ่นโฟมที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า ตัวอย่างตาข่าย 7 ใน 20 ตัวอย่างที่เก็บรวบรวมโดยหน่วยงานไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และจนถึงขณะนี้ ตำรวจและคณะกรรมการอิสระต่อต้านการทุจริตได้จับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุเพลิงไหม้แล้ว 14 ราย
ทางการระบุในแถลงการณ์ว่า ระหว่างวันที่ 29 พ.ย.- 1 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ได้จับกุมชาย 9 ราย และหญิง 1 ราย ในข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีความเชื่อมโยงกับโศกนาฏกรรมในเขตต่ายโปว และเสริมว่า ผู้ต้องสงสัยประกอบด้วย ที่ปรึกษาโครงการ ผู้รับเหมาช่วงนั่งร้าน และคนกลางที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว ขณะที่ชาย 1 รายและหญิง 1 ราย ได้รับการประกันตัวแล้ว แต่ต้องมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ในต้นเดือนธ.ค. ขณะที่คนอื่น ๆ ยังคงถูกคุมขัง
เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ถือเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดของฮ่องกงนับตั้งแต่เหตุการณ์ไฟไหม้โกดังในปี 2491 ที่คร่าชีวิตผู้คนไป 176 ราย และได้กระตุ้นให้เกิดความไม่พอใจของสาธารณชนในระดับที่ไม่ได้เห็นมาตั้งแต่การประท้วงครั้งใหญ่เมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว