รายงานระบุว่า รัฐฉานยังคงเป็นศูนย์กลางของพื้นที่ผลิตฝิ่นของพม่า โดยคิดเป็น 90% ของการเพาะปลูกต้นฝิ่นทั้งหมด
รัฐบาลยังได้ดำเนินการโครงการพัฒนาทดแทนสำหรับพื้นที่ที่ต้นฝิ่นถูกทำลายโดยความร่วมมือของกองกำลังตำรวจอาเซียน องค์การตำรวจสากล (INTERPOL) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐ (DEA) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติจีน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC)
รายงานของ UNODC ระบุว่า แม้ว่าจะมีความร่วมมือจากองค์กรระหว่างประเทศแล้ว แต่การเพาะปลูกต้นฝิ่นยังคงเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน รัฐบาลพม่าก็ได้ขยายระยะเวลาในแผนกำจัดยาเสพติดจากเดิมตั้งแต่ปี 2542 - 2557 ไปอีก 5 ปีเป็นปี 2562
ทั้งนี้ พม่าขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศเพาะปลูกต้นฝิ่นรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากอัฟกานิสถาน สำนักข่าวซินหัวรายงาน