ทั้งนี้ รัฐบาลกรีซประกาศทำประชามติในวันอาทิตย์นี้เพื่อให้ชาวกรีซชี้ขาดว่าจะรับหรือไม่รับมาตรการรัดเข็มขัดในข้อตกลงให้ความช่วยเหลือทางการเงินของเจ้าหนี้
นายซิปราสกล่าวว่า การโหวต 'No' เพื่อคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้ จะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งในอำนาจต่อรองของกรีซกับทางเจ้าหนี้
คำกล่าวของนายซิปราสสวนทางกับนายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งกล่าวว่า การโหวต 'No' ของชาวกรีซในการลงประชามติในวันอาทิตย์นี้ จะทำให้กรีซมีอำนาจต่อรองน้อยลงในการเจรจากับเจ้าหนี้
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานระบุว่า กรีซประสบปัญหาหนี้ที่สูงจนทำให้การชำระหนี้ไม่สามารถเป็นไปอย่างยั่งยืน และกรีซจำเป็นต้องได้รับการปรับลดหนี้ 30% รวมทั้งต้องได้รับความช่วยเหลือทางการเงินราว 5 หมื่นล้านยูโรจนถึงปี 2018 โดยมีระยะเวลาปลอดหนี้ 20 ปี ก่อนที่กรีซจะเริ่มชำระหนี้ได้
"รายงานของ IMF เป็นการยืนยันสอดคล้องกับรัฐบาลกรีซที่ระบุว่า หนี้กรีซสูงจนทำให้การชำระหนี้ไม่สามารถเป็นไปอย่างยั่งยืน" เขากล่าว พร้อมเสริมว่า การที่กรีซไม่ยอมลงนามในร่างข้อตกลงในวันที่ 25 มิ.ย. เป็นเพราะข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้ช่วยทำให้การชำระหนี้ของกรีซมีความยั่งยืน