ทั้งนี้ นายโซโรเชนโกเป็นผู้นำคณะสืบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากรัสเซีย อียิปต์ ฝรั่งเศส และไอร์แลนด์ โดยการสืบสวนได้เริ่มต้นขึ้นวานนี้ ประเดิมด้วยการวิเคราะห์กล่องดำ 2 กล่องซึ่งกู้สำเร็จเมื่อกลางดึกวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น
ขณะที่นายเชอรีฟ อิสมาอิล นายกรัฐมนตรีอียิปต์เปิดเผยว่า ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเครื่องบินดังกล่าวบินอยู่ในระดับที่สูงจนไม่สามารถถูกยิงตกได้ และเชื่อว่ากิจกรรมที่ผิดปกติจะไม่ได้เป็นสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้กู้ศพผู้เสียชีวิตออกมาได้แล้ว 187 รายจากที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธรัฐไซนาย (Sinai State) ซึ่งเคยประกาศความจงรักภักดีต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์อ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุเครื่องบินสายการบิน Kogalymavia ตกลงบริเวณคาบสมุทรไซนายในอียิปต์ โดยกลุ่มรัฐไซนายระบุว่าทำเพื่อแก้แค้นที่รัสเซียเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย โดยข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันความถูกต้อง
ขณะเดียวกัน การเปิดเผยของกลุ่มรัฐไซนายนั้น ยังขัดกับที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียิปต์เปิดเผยก่อนหน้านี้ โดยนายไอมาน อัล-โมคาเดม หัวหน้าคณะตรวจสอบเหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้ กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เครื่องบินลำดังกล่าวตกนั้น มาจากการขัดข้องทางเทคนิค และไม่ได้ถูกยิงตก พร้อมกับกล่าวว่า ก่อนที่เครื่องจะตกนั้น นักบินทราบแล้วว่าเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิคและได้รายงานต่อสำนักงานการบินว่าเขาต้องการจะนำเครื่องร่อนลงจอดที่สนามบินใกล้เคียง
ก่อนหน้านี้แถลงการณ์ของกระทรวงการบินพลเรือนของอียิปต์ระบุว่า พบซากเครื่องบินของสายการบิน Kogalymavia เที่ยวบิน KGL9268 ของรัสเซีย ในเขตฮาสซานา ห่างจากพื้นที่ตอนใต้ของเมืองอาริช ออกไปประมาณ 35 กิโลเมตร โดยเมืองอาริชตั้งอยู่ในบริเวณคาบสมุทรไซนาย
เครื่องบินลำดังกล่าวพร้อมด้วยผู้โดยสารและลูกเรือมากกว่า 200 คนได้เดินทางออกจากเมืองชาร์ม เอล-ชีค เมื่อวันเสาร์เวลา 06.51 น.ตามเวลามอสโค และมีกำหนดจะร่อนลงจอดที่สนามบินพัลโคโว เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เวลา 12.10 น.ตามเวลามอสโคในวันเดียวกัน แต่เครื่องบินได้หายไปจากจอเรดาร์หลังจากเดินทางออกจากสนามบินได้เพียง 23 นาที สำนักข่าวซินหัวรายงาน