นายแอนโธนี ฟอกซ์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของสหรัฐเปิดเผยว่า"ทากาตะได้ผลิตและจำหน่ายถุงลมนิรภัยที่มีข้อบกพร่องมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่กลับไม่ยอมรับว่าถุงลมดังกล่าวมีข้อผิดพลาด ซึ่งนี่คือปัญหาและกระทรวงคมนาคมสหรัฐกำลังเข้ามาจัดการปัญหาที่ว่านี้"
จำนวนเงินดังกล่าวรวมถึงค่าปรับ 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากทากาตะไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง หรือพบว่ามีการละเมิดกฎเพิ่ม ซึ่งนับเป็นการสั่งปรับมูลค่าสูงที่สุดของ NHTSA
ทั้งนี้ NHTSA เปิดเผยว่า คำสั่งปรับจะช่วยเร่งกระบวนการเรียกเก็บคืน พร้อมทั้งกำหนดให้ทากาตะและผู้ผลิตรถอีก 12 รายที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญกับรถยนต์ที่มีชิ้นส่วนอะไหล่บกพร่องเป็นอันดับแรก อันเนื่องมาจากความเสี่ยงต่างๆ เช่น อายุของรถยนต์และการสัมผัสกับความชื้นสัมบูรณ์สูง
ทากาตะและบริษัทผู้ผลิตรถยังต้องจัดหาชุดอะไหล่ให้กับรถยนต์ที่มีความเสี่ยงมากที่สุดภายในเดือนมิ.ย.ปีหน้า และแก้ไขระบบสูบลมภายในถุงลมนิรภัยทั้งหมดภายในสิ้นปี 2562
เมื่อเดือนที่แล้ว NHTSA เปิดเผยว่า รถยนต์ประมาณ 19 ล้านคันในสหรัฐซึ่งมีถุงลมนิรภัยที่มีข้อบกพร่อง มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการเสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บอีกประมาณ 100 ราย แต่มีรถยนต์เพียงแค่ 22.5% เท่านั้นที่ได้รับการแก้ไข สำนักข่าวเกียวโดรายงาน