องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ประมาณการว่า จำนวนเด็กที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเอกวาดอร์นั้น มีจำนวนอย่างต่ำ 150,000 คน โดยเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้นับเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษในประเทศแถบเทือกเขาแอนดิส
แกรนท์ เลตี้ ตัวแทนองค์กรในเอกวาดอร์กล่าวว่า "พวกเราต้องทำงานแข่งกับเวลาในการช่วยเหลือเด็กให้ปลอดภัยจากโรคต่างๆและความเสี่ยงอื่นๆในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้"
เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.8 ริกเตอร์ครั้งนี้ได้คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก โดยรายงานล่าสุดระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 480 ราย , บาดเจ็บ 4,027 ราย และสูญหายกว่า 231 ราย
รายงานเบื้องต้นของรัฐบาลระบุว่าโรงเรียนกว่า 119 แห่งได้รับความเสียหายทำให้เด็กกว่า 88,000 คนได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ยังมีอาคารกว่า 805 หลังที่พังถล่มและอีก 608 หลังที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงโรงพยาบาล 2 แห่งในเมืองปอร์โตเบียโฆ่และเมืองโชเน่ที่เหลือเพียงซากปรักหักพัง
นอกจากนี้ในบางพื่นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงยังเกิดดินถล่มทำให้ระบบโครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหายและทำให้การเข้าไปช่วยเหลือเป็นไปได้อย่างยากลำบาก เมืองบางแห่งยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้และระบบโทรคมนาคมเพียง 40 % เท่านั้นที่ยังใช้การได้
ทั้งนี้ UNICEF ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับระบบสาธารณสุข ประปาและอนามัยในพื้นที่แถบชายฝั่งที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากเดิมทีเป็นแหล่งชุกชุมของโรคต่างๆเช่นไข้ซิกา ไข้เลือดออก มาลาเรีย และชิคุนกุนยา
UNICEF ยังได้ส่งทีมช่วยเหลือเข้าไปในเขตพื้นที่ของเมืองแปแดร์นัลเลสในสาธารณรัฐโดมินิกันและเมืองเอสเมรัลดาสในบราซิล ซึ่งเป็นอีก 2 พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงในเหตุการณ์ครั้งนี้เพื่อช่วยเหลือเด็กในพื้นที่
ในขณะเดียวกันรัฐบาลเอกวาดอร์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินใน 6 จังหวัดและส่งกองกำลังของกองทัพกว่า 14,000 นายเข้าไปในพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเช่นกัน