นายเดวิด เลเพน โฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ (DHS) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะประกาศขยายมาตรการห้ามผู้โดยสารพกพาแล็ปท็อปขึ้นเครื่องบินครอบคลุมเที่ยวบินระหว่างประเทศจากยุโรปในสัปดาห์นี้
โฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ กล่าวว่า "นี่เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาข้อตกลงกับบรรดาผู้ถือผลประโยชน์ในประเด็นดังกล่าว" โดยไม่ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายจอห์น เคลลี รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ กล่าวว่า เขาอาจจะขยายมาตรการห้ามผู้โดยสารพกพาแล็ปท็อปขึ้นเครื่องบินครอบคลุมเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมดที่เข้าและออกจากสหรัฐ เนื่องจากมีความเสี่ยง เพราะผู้ก่อการร้ายจดจ่อกับการโจมตีเครื่องบิน
ขณะเดียวกัน สำนักข่าว Politico ของสหรัฐรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) รายหนึ่งกล่าวว่า "ไม่มีคำสั่งห้าม" หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้มีการประชุมสายระหว่างนายเคลลี นายดิมิทรี อวารามูปูลอส กรรมาธิการยุโรปฝ่ายกิจการภายใน และวิโอเลตา บัลค์ กรรมาธิการยุโรปฝ่ายคมนาคม
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว กล่าวว่า "ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะสานต่อการเจรจาทางเทคนิคและพยายามหาวิธีแก้ไขปัญหาร่วมกัน"
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐเคยแถลงก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐกำลังพิจารณาขยายมาตรการห้ามผู้โดยสารพกอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์ขึ้นเครื่องบิน เนื่องจากเกรงว่าจะมีระเบิดซุกซ่อนในอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์ซึ่งจุดระเบิดด้วยมือได้ หรือวัตถุระเบิดที่ระเบิดได้โดยการใช้เบ้าปลั๊กไฟบนเครื่องบิน
ทั้งนี้ ในเดือนมี.ค. กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐออกมาตรการห้ามผู้โดยสารจากสนามบิน 10 แห่งใน 8 ประเทศอาหรับและแอฟริกาตอนเหนือ ไม่ให้พกพาอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์ขนาดใหญ่ อาทิ แล็ปท็อป แท็บเล็ต และกล้องดิจิทัล ติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย ต่อมาอังกฤษออกมาตรการในทำนองเดียวกันซึ่งมีผลบังคับใช้กับเที่ยวบินตรงจาก 6 ประเทศอาหรับ