อุ่นเครื่องออสการ์: Roma ตัวเก็งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, รามี มาเลก เต็งหนึ่งดารานำชาย และโอลิเวีย โคลแมน เต็งหนึ่งดารานำหญิง

ข่าวต่างประเทศ Sunday February 24, 2019 10:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เตรียมลุ้นไปกับงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 91 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 ก.พ. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันจันทร์ที่ 25 ก.พ. ตามเวลาไทย โดยปีนี้หลายสำนักยกให้ Roma เป็นเต็งหนึ่งในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ส่วนรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมนั้น กระแสการคาดการณ์นั้นสูสีกันมากระหว่าง โอลิเวีย โคลแมน จาก "The Favourite" และ เกลนน์ โคลส จาก "The Wife" ส่วนนักแสดงชายยอดเยี่ยมนั้น คาดว่า จะเป็นของ รามี มาเลก จาก "Bohemian Rhapsody"

งานออสการ์ปีนี้จะจัดขึ้นที่ดอลบีเธียร์เตอร์ ในเมืองลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ ในวันอาทิตย์ที่ 24 ก.พ. ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (จันทร์ที่ 25 ก.พ. เวลา 7.00 น.ตามเวลาไทย)

สำหรับรายชื่อภาพยนตร์ นักแสดง และผู้กำกับที่ได้รับการเสนอชื่อชิงออสการ์ มีดังนี้ *ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

Black Panther เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรจากค่ายมาร์เวล โดยมีตัวเอกชื่อ "ทีชัลล่า" กษัตริย์และผู้พิทักษ์แห่งประเทศวากานดา ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นประเทศที่มีวิทยาการล้ำหน้า แต่จำต้องมีฉากหน้าเป็นประเทศยากจน เพื่อไม่ให้ประเทศถูกรุกรานจากคนภายนอก ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการยกย่องมากมาย เพราะบอกเล่าวัฒนธรรมและรากเหง้าชาวแอฟริกาได้อย่างน่าสนใจ ทั้งยังสร้างรายได้ทั่วโลกได้มากถึง 1.35 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินได้มากเป็นอันดับ 9 ของโลก สำหรับงานออสการ์ปีนี้ Black Panther ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลมากถึง 7 สาขา และการที่ Black Panther ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมนี้ ยังทำให้ Black Panther เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรเรื่องแรกที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลดังกล่าวด้วย


BlacKkKlansman เป็นภาพยนต์อาชญากรรมแนวดราม่าคอมเมดี้ เล่าเรื่องของ รอน สตอนวอร์ธ (จอห์น เดวิด วอชิงตัน) ซึ่งเป็นตำรวจเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันผิวสีคนแรกในกรมตำรวจโคโลราโดช่วงปี 70 ที่เข้าเปิดโปงองค์กรคูคลักซ์แคลนท้องถิ่นด้วยความช่วยเหลือของ ฟลิป ซิมเมอร์แมน (อดัม ไดรเวอร์) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานชาวยิว กำกับโดยสไปค์ ลี โดยสร้างจากเนื้อหาในบันทึก Black Klansman ของรอน สตอลวอร์ธตัวจริง

          Bohemian Rhapsody ภาพยนตร์ที่สร้างจากชีวประวัติของ เฟรดดี เมอร์คูรี นักร้องนำของวง Queen ซึ่งเป็นวงดนตรีระดับตำนาน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ รามี มาเลค (Rami Malek) นักแสดงที่โด่งดังจากซีรีส์ Mr. Robot มารับบทเป็นเฟรดดี เมอร์คูรี ชายหนุ่มที่เริ่มต้นชีวิตจากคนที่ไม่มีตัวตน จากพนักงานขนกระเป๋าของสายการบินแห่งหนึ่ง จนกลายมาเป็นนักร้องดังที่ทั่วโลกจับตา ด้วยเสียงร้องที่มีพลังและท่วงท่าอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เพลงของเขากลายเป็นอมตะ

          นอกจากการนำเสนอชีวประวัติของเมอร์คูรีแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งมิตรภาพของเพื่อนร่วมวง และอานุภาพของความรักที่เมอร์คูรีมีให้กับหญิงคนรัก จนกลั่นกรองเป็นบทเพลง Love of My Life ที่ตราตรึงใจผู้คนมาจนถึงทุกวันนี้

          สำหรับชื่อของภาพยนตร์ Bohemian Rhapsody นั้น นำมาจากชื่อเพลงที่อยู่ในอัลบัม A Night At Opera ของวง Queen นอกจากนี้ยังมีเพลงอื่นๆที่ฮิตติดลมบนและได้รับการกล่าวขวัญถึงจนปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงเพลง Love of My Life, Seaside Rendezvous และ You're My Best Friend


ในราชสำนักอังกฤษช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 สมเด็จพระราชินีแอนน์ (โอลิเวีย คอลแมน) ทรงครองบัลลังก์ โดยมีพระสหายสนิท "ซาราห์ เชอร์ชิลล์" ดัชเชสแห่งมาร์ลบะระ (เรเชล ไวสซ์) บริหารราชการในนามของพระองค์ ขณะนั้นอังกฤษกำลังทำสงครามกับฝรั่งเศส ดัชเชสจึงทุ่มเทเวลาให้กับการบ้านการเมือง ในตอนนั้นเอง "อบิเกล" (เอ็มม่า สโตน) หญิงรับใช้คนใหม่ที่เข้ามาอยู่ในวัง ได้กลายเป็นที่ต้องพระทัยของพระราชินีแอนน์ ศึกแย่งชิงเพื่อเป็นคนโปรดของพระราชินีแอนน์จึงเปิดฉากขึ้น

Green Book เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริงโดยฝีมือของผู้กำกับ "ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี" ซึ่งเล่าเรื่องราวของ "ดร. ดอน เชอร์ลีย์" (มาเฮอร์ชาลา อาลี) นักเปียโนอัจฉริยะผิวสี ที่ต้องการหาคนขับรถและบอดี้การ์ดส่วนตัวเพื่อออกเดินทางไปแสดงคอนเสิร์ตทางตอนใต้ของสหรัฐ แต่เขากลับเลือก "โทนี่ ลิป" (วิกโก้ มอร์เทนเซน) ลูกครึ่งชาวอิตาเลียน-อเมริกันที่เกลียดคนดำเป็นชีวิตจิตใจมารับหน้าที่นี้แทน โดยทั้งคู่มีเพียง "สมุดปกเขียว" อันเป็นคู่มือที่บอกสถานที่ที่เป็นมิตรกับชาวผิวสี เป็นเครื่องนำทางสู่การเดินทางอันแสนทรหด ภายใต้บรรยากาศแห่งการเหยียดเชื้อชาติอย่างชอบธรรมในช่วงต้นยุค 60

เรื่องราวการเดินทางครั้งนี้พร้อมบอกเล่าให้ทุกคนได้รับรู้ถึงความขมขื่นของผู้ที่ถูกเหยียดชาติพันธุ์ การรักษาเกียรติยศในฐานะความเป็นมนุษย์ และ "มิตรภาพ" ที่แม้แต่เชื้อชาติก็ไม่อาจแบ่งแยกได้


ภาพยนตร์เรื่อง Roma เป็นภาพยนตร์ดราม่าภาษาต่างประเทศเรื่องเดียวที่เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนี้ โดยเป็นเรื่องราวของ คลีโอ (ยาลิตซา อปาริซิโอ) แม่บ้านที่ทำงานให้กับครอบครัวผู้มีฐานะในกรุงเม็กซิโกซิตีช่วงปี 2510 นอกจากการดูแลรักษาความสะอาดบ้านแล้ว เธอยังมีหน้าที่ในการเลี้ยงดูเด็ก ๆ ในบ้านซึ่งมีทั้งหมด 4 คน ในขณะเดียวกันก็ต้องทนฟันฝ่ามรสุมชีวิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความรักที่ไม่สมหวังหรือเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่ทำให้การใช้ชีวิตค่อนข้างยากลำบาก ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานที่ผู้กำกับอัลฟอนโซ กวารอนอุทิศให้กับสาวใช้ที่เลี้ยงดูเขามาในวัยเด็ก แม้จะเป็นภาพยนตร์ขาว-ดำที่อาจดูไร้สีสัน แต่รับรองว่าอันแน่นไปด้วยอารมณ์และจิตวิญญาน นับเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมและคู่ควรกับการเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง

A Star Is Born บอกเล่าเรื่องราวของแอลลี่ (เลดี้ กาก้า) นักร้องและนักแต่งเพลงที่พยายามดิ้นรนต่อสู้กับความฝันของตนในการก้าวสู่ศิลปินที่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งเธอได้พบกับแจ็คสัน เมนย์ (แบรดลีย์ คูเปอร์) ศิลปินร็อคคันทรี ผู้มองเห็นพรสวรรค์ในตัวเธอ หลังจากที่แจ็คได้เห็นการแสดงร้องเพลงของแอลลี่ที่บาร์แห่งหนึ่ง เขาเริ่มรู้สึกหลงไหลในเสียงของเธอ จนกระทั่งแจ็คได้กลายมาเป็นที่ปรึกษาและคู่รักของแอลลี่ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ดวงดาวของแอลลี่กำลังเจิดจรัส เส้นทางอาชีพศิลปินของแจ็คสันกลับเริ่มดิ่งลง หนังเวอร์ชั่นในปี 2561 นี้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้งจากต้นฉบับในปี 2480 ที่มีชื่อเรื่องเดียวกัน


Vice ภาพยนตร์ตลกแนวเสียดสีการเมืองผลงานกำกับและเขียนบทโดย อดัม แม็คเคย์ (Adam Mckay) ว่าด้วยเรื่องราวชีวประวัติ "ดิก เชนีย์" (Dick Cheney) อดีตรองประธานาธิบดีผู้โด่งดังของสหรัฐที่ดำรงตำแหน่งในช่วงปี 2544-2552 ซึ่งเรียกเสียงฮือฮามาได้ตั้งแต่ยังไม่ออกฉาย และถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำถึง 6 สาขา ก่อนจะคว้ารางวัลมานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมประเภทภาพยนตร์ตลกหรือเพลงมาครองได้สำเร็จจากฝีมือการแสดงของคริสเตียน เบล (Christian Bale) ที่ยอมลงทุนเพิ่มน้ำหนักตัวเองหลายสิบกิโลกรัมเพื่อให้สมบทบาทชายสูงวัยพุงพลุ้ยอย่างอดีตรองปธน.เชนีย์ ร่วมกับนักแสดงมากความสามารถอีกหลายคน อาทิเอมี อดัมส์ (Amy Adams) ผู้มารับบทสุภาพสตรีข้างกายอดีตรองปธน. และแซม ร็อกเวลล์ (Sam Rockwell) ในบทประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช (George W Bush) หรือแม้แต่สตีฟ คาเรล (Steve Carell) เจ้าพ่อหนังตลกที่มาสร้างสีสันให้เรื่องการเมืองกลายเป็นเรื่องสนุกๆ แบบไร้ขีดจำกัด

*ผู้กำกับยอดเยี่ยม

อัลฟอนโซ กวารอน เป็นผู้กำกับชาวเม็กซิกันคนแรกที่มีสิทธิ์ได้รางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เคยคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเรื่อง Gravity มาแล้วในปี 2557 ลองมาดูกันว่าปีนี้ ชื่อของอัลฟอนโซ กวารอนจะถูกประกาศในฐานะผู้ชนะรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมอีกครั้งหรือไม่ อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ รางวัลสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมเป็นสาขาที่มีผู้กำกับชาวต่างชาติหรือลูกครึ่งชนะมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2554 จึงต้องจับตาดูกันว่า รางวัลสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมจะตกเป็นของผู้กำกับต่างชาติได้อีกปีหรือไม่ และถ้าหากใครกำลังเชียร์ผู้กำกับคนนี้ ก็อย่าลืมส่งใจไปเชียร์ให้ภาพยนตร์เรื่อง Roma คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปด้วย เพราะครั้งก่อน ภาพยนตร์เรื่อง Gravity ของเขากลับพ่ายให้กับเรื่อง 12 Years a Slave ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปี 2557


ยอร์กอส ลันธิมอส ผู้กำกับชาวกรีกวัย 45 ปี สร้างสรรค์ภาพยนตร์ภาษาอังกฤษเรื่องแรก "The Lobster" ในปี 2558 ซึ่งคว้ารางวัลขวัญใจกรรมการ (Jury Prize) จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 68 ต่อมาในปี 2560 เขาได้ส่งภาพยนตร์ "The Killing of a Sacred Deer" ไปคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 70 และล่าสุดในปี 2562 ภาพยนตร์ย้อนยุคเรื่องแรกของเขา "The Favourite" ก็ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

สไปค์ ลี เป็นผู้กำกับชาวอเมริกัน เจ้าของรางวัลออสการ์เกียรติยศในปี 2558 กำกับภาพยนต์เรื่องแรกของตัวเองคือเรื่อง She's Gotta Have It (2529) และมีผลงานแจ้งเกิดจากเรื่อง Do the Right Thing (2532) ต่อด้วย 4 Little Girls (2540) และล่าสุดคือเรื่อง BlacKkKlansman (2561) โดยเอกลักษณ์ภาพยนต์ของลี คือการเล่าถึงความสัมพันธ์ด้านเชื้อชาติ ปัญหาด้านสีผิวในสังคมชาวผิวดำ อาชญากรรม ความยากจน และปัญหาการเมืองต่างๆ ลีได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์จากเรื่อง BlacKkKlansman ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดย 2 ครั้งแรกมาจากเรื่อง Do the Right Thing และเรื่อง 4 Little Girls


อดัม แม็คเคย์ ผู้กำกับชาวอเมริกันผู้เคยสร้างผลงานเรียกเสียงฮือฮามาแล้วจาก The Big Short (2558) ด้วยการถ่ายทอดเรื่องราววิกฤติการเงินซึ่งดูเหมือนจะเคร่งเครียดให้ออกมาสนุกสนานน่าติดตามจนเป็นที่กล่าวขานในขณะนั้น ครั้งนี้เขาได้กลับมาอีกครั้งกับผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่อง "Vice" เรื่องราวชีวประวัติของอดีตประธานาธิบดีดิก เชนีย์ ที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกงและผลประโยชน์ฉาวโฉ่ในสนามการเมืองอันเข้มข้น แต่กลับถูกเล่าให้เข้าใจง่าย สอดแทรกด้วยมุขตลกแนวเสียดสีสังคมตามแบบฉบับแม็คเคย์จนได้เข้าชิงรางวัลสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนี้ด้วยเช่นกัน

พาเวล พาวลิคอฟสกี เป็นผู้สร้างภาพยนตร์ชาวโปแลนด์ แต่ส่วนใหญ่แล้วทำงานและใช้ชีวิตอยู่ในสหราชอาณาจักร ชายผู้นี้มีชื่อเสียงจากผลงานภาพยนตร์สารคดีที่คว้ารางวัลมาแล้วมากมาย ทั้งยังเคยคว้ารางวัลออสการ์มาแล้วในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมประจำปี 2558 จากผลงานภาพยนตร์เรื่อง Ida และสำหรับงานออสการ์ปีนี้ ผลงานภาพยนตร์ที่ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมคือเรื่อง Cold War ซึ่งได้คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ส่งถึงมือผู้กำกับรายนี้มาแล้ว



*นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม

ยาลิตซา อปาริซิโอ จากภาพยนตร์เรื่อง Roma ยาลิตซาได้รับบท "คลีโอ" แม่บ้านชาวเม็กซิกันซึ่งอ้างอิงมาจากชีวิตจริงของพี่เลี้ยงของผู้กำกับอัลฟอนโซ กวารอนในวัยเด็ก ภาพยนตร์เรื่องนี้นับเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอที่ได้มาด้วยความบังเอิญ โดยได้มาจากการที่พี่สาวของเธอได้ชวนเธอไปแคสต์งานทั้ง ๆ ที่เธอกำลังเตรียมเป็นครูสอนอนุบาล และไม่ใช่คนในวงการ ไม่รู้จักอัลฟอนโซ กวารอน ซึ่งเป็นผู้กำกับและภาพยนตร์ของเขา แต่ทว่าผลงานชิ้นนี้ได้ผลักดันให้เธอมาไกลเป็นอย่างมาก ถ้าถามว่าไกลแค่ไหน ก็ถือว่าได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมปีนี้ ซึ่งทุกคนต่างรู้ดีว่าเป็นรางวัลที่นักแสดงระดับโลกต่างใฝ่ฝัน

เกลนน์ โคลส นักแสดงชาวอเมริกันผู้มากด้วยฝีมือ เกิดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2490 ที่เมืองกรีนิช สหรัฐอเมริกา เธอเริ่มมีชื่อเสียงจากบทบาทการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Fatal Attraction (2530) และ Dangerous Liaisons (2531) และบทบาทที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงอีกเรื่องหนึ่งคือบทหญิงใจร้ายที่เอาหนังลูกสุนัขมาทำเสื้อคลุมขนสัตว์ จากภาพยนตร์เรื่อง 101 Dalmatians (2539) และภาคต่อ 102 Dalmatians (2543)

ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่โลกภาพยนตร์ เกลนน์ โคลสเคยแสดงละครบรอดเวย์ และเคยฝากผลงานในภาพยนตร์เรื่อง Sunset Boulevard ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัล Emmy ประจำปี 2538


โอลิเวีย โคลแมน นักแสดงหญิงชาวอังกฤษ วัย 45 ปี ที่มีผลงานการแสดงหลากหลาย ทั้งจอแก้ว จอเงิน และละครเวที โคลแมนถือเป็นนักแสดงหญิงเจ้าบทบาท การันตีได้จากการกวาดรางวัลมาแล้วจากหลายเวที ซึ่งรวมถึง 4 รางวัล BAFTA และ 2 รางวัลลูกโลกทองคำ สำหรับภาพยนตร์ที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จัก เช่น Tyrannosaur ในปี 2554, The Lobster ในปี 2558 และล่าสุด The Favourite ที่โคลแมนรับบทเป็น สมเด็จพระราชินีแอนน์ ซึ่งจากบทบาทนี้เองที่ส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงนำหญิง และเรียกได้ว่ามีลุ้น เพราะก่อนหน้านี้ โคลแมนคว้ารางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์มิวสิคัล คอมเมดี้ จากเวทีลูกโลกทองคำมาแล้ว จากบทบาทการแสดงที่ยอดเยี่ยมในเรื่องนี้

เลดี้ กาก้า เป็นศิลปินเพลงป็อบชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาลี ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมากอยู่แล้วในวงการดนตรี แต่เธอก็ยังได้เข้ามาสร้างชื่อในฐานะนักแสดงสาว จากผลงานนักแสดงนำหญิงในภาพยนตร์เรื่อง A Star Is Born ที่แสดงคู่กับนักแสดงดังอย่างแบรดลีย์ คูเปอร์ สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ เลดี้ กาก้า รับบทเป็น "แอลลี่" นักร้อง/นักเขียนเพลงปลายแถวที่เริ่มท้อในการเดินตามฝันเพื่อเป็นนักแสดง ทั้งยังไม่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตนเองด้วย ซึ่งนอกเหนือจากเนื้อเรื่องแล้ว การนำเสนอภาพเลดี้ กาก้า แบบไร้เมคอัพในภาพยนตร์เรื่องนี้ยังดึงความสนใจจากผู้ชมได้เป็นอย่างมาก เพราะเลดี้ กาก้า ตัวจริงนั้นเป็นนักร้องที่มีตัวตนชัดเจน ที่ล้วนแล้วแสดงออกมาผ่านเมคอัพ วิกผม เครื่องแต่งกาย และพร็อพอื่น ๆ ทำให้การเผยใบหน้าของเธอในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่พูดถึงอย่างมาก


เมลิซซา แม็คคาร์ธี เป็นนักแสดงชาวอเมริกัน โด่งดังมาจากผลงานในภาพยนตร์ตลกเรื่อง Bridesmaids ซึ่งเคยทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์มาแล้วในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม และนอกเหนือจากผลงานการแสดงแล้ว เธอยังเป็นผู้จัดตั้งบริษัทโปรดักชั่นร่วมกับสามี ทั้งยังเคยเปิดตัวไลน์เสื้อผ้าของตนเอง ส่งผลให้เมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา เธอได้รับการจัดอันดับเป็นนักแสดงหญิงที่มีรายได้มากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก และสำหรับปีนี้ เมลิซซา แม็คคาร์ธี ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง Can You Ever Forgive Me? ซึ่งเธอรับบทเป็นลี อิสราเอล นักเขียนหนังสือที่กำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงิน จนทำให้เธอต้องปลอมจดหมายของคนดังเพื่อขายหาเงิน

*นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

คริสเตียน เบล นักแสดงชายวัย 45 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงที่ทุ่มเทจิตวิญญาณเพื่อให้เข้าถึงบทบาทคาแรกเตอร์ตัวละครในภาพยนตร์ที่รับเล่น ด้วยการลดและเพิ่มน้ำหนักตัวอย่างสุดโต่ง เบลฝากผลงานไว้ในภาพยนต์เรื่อง The Machinist, Batman Begins, และ The Prestige ตลอดจนภาพยนตร์ชิงรางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงนำชายเรื่องล่าสุด อย่าง "Vice" ซึ่งเขารับบทเป็น "ดิก เชนีย์" อดีตรองประธานาธิบดีของสหรัฐคนที่ 46 โดยเบลต้องเพิ่มน้ำหนักตัวถึง 18 กิโลกรัม เพื่อให้สมกับบทบาท นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของรางวัลการันตีฝีไม้ลายมือด้านการแสดงจากหลายเวทีด้วยกัน รวมถึง รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนต์เรื่อง The Fighter ในปี 2554 และอีก 2 รางวัลจากเวทีลูกโลกทองคำ


แบรดลีย์ ชาร์ลส์ คูเปอร์ นักแสดงและผู้กำกับภาพยนต์ชาวอเมริกัน เกิดเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2518 เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลต่างๆ มากมาย ซึ่งรวมไปถึงรางวัลออสการ์ถึง 7 ครั้ง รางวัลแกรมมี่ 2 ครั้ง และรางวัลโทนี 1 ครั้ง คูเปอร์มีรายชื่อติดหนึ่งในร้อยของบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในนิตยสารฟอร์บ รวมถึงเป็นบุคคลหนึ่งในร้อยของผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกแห่งปี 2558 ภาพยนต์ของเขาทำรายได้รวมทั่วโลกถึง 7.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เขายังเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดในโลกเป็นเวลา 3 ปี อีกด้วย

หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตา "วิลเลียม เดโฟ" (Willem Dafoe) นักแสดงมากความสามารถวัย 63 ปีรายนี้จากหนังจอเงินชื่อดัง ทั้ง Platoon, Spider-Man, The Grand Budapest Hotel รวมถึง Aquaman และอีกมาก แต่ครั้งนี้เดโฟได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม หลังฝากผลงานการแสดงไว้ในบทบาทของ Vincent van Gogh จากภาพยนตร์เรื่อง At Eternity's Gate ภาพยนตร์ชีวประวัติบอกเล่าเรื่องราวช่วงบั้นปลายชีวิตของจิตรกรเอกของโลกชาวฝรั่งเศส ท่ามกลางการจับตามองว่าเดโฟจะคว้ารางวัลนี้ไปครองได้สำเร็จหรือไม่ หลังจากเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์มาแล้วด้วยกันถึง 3 ครั้ง


"รามี มาเลก" นักแสดงชาวอเมริกันวัย 37 ปี ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ครั้งที่ 91 จากการสวมบทเป็นร็อกเกอร์ระดับตำนานอย่าง "เฟรดดี เมอร์คิวรี" ฟรอนต์แมนวง Queen ในภาพยนตร์ชีวประวัติเรื่อง Bohemian Rhapsody ซึ่งหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เป็นการแสดงของที่สมจริงราวกับเฟรดดี้กลับชาติมาเกิด" และด้วยการแสดงที่เหนือชั้นชนิดเรียกน้ำตาแฟนวงควีนออกมาได้เป็นลิตร ๆ ทำให้มาเลกสามารถคว้ารางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายประเภทภาพยนตร์ไปครองได้อย่างสง่างาม จึงต้องติดตามกันต่อไปว่า สำหรับเวทีอันทรงเกียรติอย่างออสการ์แล้ว มาเลกจะสามารถคว้ารางวัลนี้ไปได้หรือไม่

วิกโก มอร์เทนเซน เกิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2501 เขาเป็นนักแสดง กวี นักดนตรี ช่างถ่ายภาพและจิตรกรชาวอเมริกันเชื้อสายเดนมาร์ก เขาโด่งดังไปทั่วโลกจากบทบาท อารากอร์น เจ้าชายนักรบจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ The Lord of the Rings เขาเคยเข้าชิงออสการ์สาขานำชายมาแล้ว 2 ครั้งจาก Eastern Promises (2543) และ Captain Fantastic (2559) อีกทั้งยังเคยเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำถึง 3 ครั้งจากภาพยนตร์เรื่อง Eastern Promises และ Captain Fantastic ในสาขานักแสดงนำชาย และ A Dangerous Method (2554) ในสาขานักแสดงสมทบชาย



*นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

เอมี่ อดัมส์ เกิดวันที่ 20 สิงหาคม 2517 เป็นนักแสดงหญิงมากความสามารถชาวอเมริกัน เธอปรากฏตัวบนจอเงินครั้งแรกในปี 2542 จากเรื่อง Drop Dead Gorgeous ทว่าแจ้งเกิดอย่างโด่งดังในบทบาท แอชลีย์ จอห์นสเตน สาวท้องจอมป่วน จากเรื่อง Junebug นอกจากนี้เธอยังเคยผ่านการเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วถึง 5 ครั้ง ทั้งจากในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Junebug (2549) Doubt (2552) The Fighter (2554) The Master (2556) และในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง American Hustle

          ชื่อของ มารินา เด ทาวิรา นับเป็นหนึ่งในชื่อที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ติดตามการประกาศรายชื่อผู้เช้าชิงรางวัลออสการ์ปีนี้ เพราะชื่อของเธอมันจะเป็นที่รู้จักในนามของนักแสดงจอโทรทัศน์ การสวมบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง Roma ของผู้กำกับมือทอง "อัลฟอนโซ กวารอน" ทำให้เธออยู่ในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ แต่ทว่าบทบาทจาก Roma กลับส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล จึงเรียกได้ว่า ชื่อของเธอสร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย


บทบาทนักแสดงสบทบหญิงของเรจิน่า คิง จากภาพยนตร์เรื่อง If Beale Street Could Talk ครั้งนี้ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงราลวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิง ที่ผ่านมา ชื่อของเรจิน่า คิงจากภาพยนตร์เรื่องนี้ได้กวาดรางวัลจากสถาบันนักวิจารณ์อื่น ๆ มาแล้วมากมาย และถือว่าคว้ารางวัลมาได้มากกว่านักแสดงคนอื่น ๆ ที่เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาเดียวกัน ทำให้เธอเป็นสายแข็งสำหรับการชิงรางวัลออสการ์สาขานี้ในปีนี้

เอ็มมา สโตน นักแสดงสาวชาวอเมริกัน วัย 30 ปี จากรัฐแอริโซนา แจ้งเกิดในวงการฮอลลีวูดจากภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ เรื่อง Easy A ในปี 2553 ก่อนที่ชื่อของเธอจะโด่งดังขึ้นไปอีกจากการรับบทนำในหนังบล็อกบัสเตอร์ The Amazing Spider-Man ปี 2555 รวมถึงภาคค่อไนปี 2557 นอกจากสร้างชื่อเสียงจนก้าวขึ้นมายืนอยู่ในแถวหน้าของวงการฮอลลีวูดแล้ว เอ็มมา สโตน ยังเดินหน้าพิสูจน์ฝีไม้ลายมือการแสดง โดยเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรกในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ดาร์กคอมเมดี้เรื่อง Birdman ในปี 2557 และคว้ารางวัลออสการ์ ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม มาครองได้สำเร็จ กับผลงานภาพยนตร์เพลงเรื่อง La La Land ในปี 2559 สำหรับปีนี้ เอ็มมา สโตน มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลบนเวทีออสการ์อีกครั้ง ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จาก The Favourite ภาพยนตร์พีเรียดอิงประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษ ช่วงต้นยุคศตวรรษที่ 18 ที่ เอ็มมา สโตน รับบทเป็น อาบิเกล มาแชม ซึ่งเธอต้องประชันบทบาทกับ เรเชล ไวสซ์ ในบท เลดี้ ซาราห์ เชอร์ชิลล์ เพื่อแย่งชิงเป็นคนโปรดของสมเด็จพระราชินีแอนน์ ที่รับบทโดยโอลิเวีย โคลแมน


เรเชล ไวสซ์ เกิดเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2513 เธอเป็นนักแสดงและนางแบบชาวอังกฤษ และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักหลังจากรับบทเป็นเอเวอลีน "อีวี" คาร์นาฮัน-โอ'คอนเนลล์ ในภาพยนตร์เรื่อง The Mummy และ The Mummy Returns ต่อมาในปี 2544 เธอได้รับบทคู่กับฮิว แกรนต์ ในภาพยนตร์เรื่อง About a Boy และเมื่อเธอได้แสดงในภาพยนตร์ The Constant Gardener (2548) ทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรก และในปีนี้ เรเชล ไวสซ์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากบทบาทของเลดี้ ซาราห์ เชอร์ชิลล์ในภาพยนตร์เรื่อง "The Favourite"

*นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม

นับเป็นอีกครั้งที่ "มาเฮอร์ชาลา อาลี" นักแสดงชาวอเมริกันวัย 44 ปี ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม หลังจากที่เคยคว้ารางวัลนี้มาแล้วจากภาพยนต์ดราม่าอย่างเรื่อง Moonlight ในปี 2559 สำหรับในปีนี้ อาลีได้คว้ารางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากบท ดร. ดอน เชอร์ลีย์ ในภาพยนตร์เรื่อง Green Book มาแล้ว จึงเป็นที่น่าจับตาว่าในปี 2562 นี้ การแสดงอันน่าประทับใจจากภาพยนต์ Green Book จะพาให้เขาสามารถคว้ารางวัลออสการ์ได้อีกครั้งหรือไม่


อดัม ไดรเวอร์ นักแสดงชาวอเมริกันวัย 35 เริ่มมีชื่อเสียงจากการเล่นซีรีส์ Girls ทางช่อง HBO และมาโด่งดังจากการรับบท ไคโล เร็น จากสตาร์ วอร์สไตรภาคล่าสุด (ตอนที่ 7-9) ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรกในปีนี้ในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากบท ฟลิป ซิมเมอร์แมน จากเรื่อง BlacKkKlansman

แซม เอลเลียต นักแสดงอาวุโสชาวสหรัฐวัย 74 ปี เกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2487 เขาสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยบทบาทอันหลากหลายทั้งในภาพยนตร์จอเงินและจอแก้ว โดยผลงานการเป็นนักแสดงอาชีพเรื่องแรกของเขาได้แก่ภาพยนตร์เรื่อง "Butch Cassidy and the Sundance Kid" และผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเขา ได้แก่ ภาพยนตร์ตลกร้ายเรื่อง "Thank You for Smoking", "The Hulk", "We Were Soldiers", "The Contender", "Top Secret", "Tombstone" และ "Gettysburg" เอลเลียตเพิ่งได้รับการเชิดชูเกียรติให้ประทับรอยฝ่ามือและเท้าไว้หน้าโรงภาพยนตร์ TCL Chinese ในฮอลลีวู้ด รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2562 และในปีนี้ แซม เอลเลียต ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง "A Star Is Born" โดยแซมรับบทเป็นบ๊อบบี้ ซึ่งเป็นพี่ชายและผู้จัดการของแจ๊คสัน เมน (แบรดลี่ย์ คูเปอร์) ศิลปินเพลงผู้ประสบความสำเร็จที่กำลังต่อสู้กับอาการติดสุรา


ริชาร์ด อี แกรนท์ เป็นนักแสดงชาวสวาซิแลนด์-อังกฤษ ซึ่งเคยคว้ารางวัลการันตีฝีมือการแสดงมาแล้วมากมาย และในปีนี้ เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรกในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากผลงานเรื่อง Can You Ever Forgive Me? ซึ่งเขารับบทบาทเป็นแจ็ค ฮ็อค นักต้มตุ๋นและเพื่อนดื่มของนางเอกในเรื่องนี้

แซม ร็อคเวล นักแสดงชายชาวอเมริกัน วัย 50 ปี จากรัฐแคลิฟอร์เนีย สั่งสมชื่อเสียงในวงการฮอลลีวูดมาอย่างต่อเนื่อง จากการรับบทบาทในภาพยนตร์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ อย่าง Confessions of a Dangerous Mind ในปี 2545 และ Moon ในปี 2552 หรือภาพยนตร์ทำเงิน Iron Man 2 ในปี 2553 แซม ร็อคเวลล์ ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากเรื่อง Three Billboarsds Outside Ebbing, Missouri ในปี 2561 ที่ส่งให้เขาคว้ารางวัลออสการ์มาครองได้เป็นครั้งแรก ในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม สำหรับปีนี้ แซม ร็อคเวล ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์อีกครั้ง ในสาขาเดียวกัน จากเรื่อง Vice โดยร็อคเวลแสดงเป็น จอร์จ ดับเบิลยู บุช ในหนังตลกร้ายที่ตีแผ่ชีวิตของ ดิ๊ก เชนีย์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ ร็อคเวลจะสามารถป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้หรือไม่ ต้องมาลุ้นกันบนเวทีออสการ์ 2562

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ