Roundup: สภาผู้แทนฯสหรัฐลงมติถอดถอน "ทรัมป์" แล้ว จับตาวุฒิสภาโหวตเดือนหน้า

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 19, 2019 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งสองข้อหา ซึ่งได้แก่ การใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส ส่งผลให้ปธน.ทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐรายที่ 3 ที่ถูกสภาคองเกรสพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่ง

สภาผู้แทนฯซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากได้ทำการลงมติ 2 ข้อหาแยกจากกัน แต่ส่วนใหญ่เป็นไปตามแนวทางของพรรคหลังจากที่มีการอภิปรายกันอย่างดุเดือดเป็นเวลาหลายชั่วโมง

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกพรรคเดโมแครตจากรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวในการเริ่มต้นอภิปรายหลายชั่วโมงก่อนการลงมติว่า "เป็นเรื่องน่าเศร้าที่การกระทำอันประมาทของปธน.ทรัมป์ทำให้จำเป็นต้องมีการไต่สวนเพื่อถอดถอน เขาทำให้เราไม่มีทางเลือก"

หลังสภาผู้แทนฯลงมติถอดถอนปธน.ทรัมป์ ทำเนียบขาวกลับแสดงความเชื่อมั่นว่า ปธน.ทรัมป์จะรอดพ้นจากการถูกถอดถอนโดยสิ้นเชิง

นางสเตฟานี กริสแชม โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า วันนี้นับเป็นเหตุการณ์สำคัญในสภาผู้แทนราษฎร และเป็นหนึ่งในเรื่องราวทางการเมืองที่น่าอับอายมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐที่พรรคเดโมแครตอนุมัติญัตติถอดถอนปธน.ทรัมป์โดยไม่ได้รับคะแนนสนับสนุนจากสมาชิกพรรครีพับลิกันแม้แต่เสียงเดียว และไม่ได้แสดงหลักฐานใดๆ เพื่อพิสูจน์ว่าปธน.ทรัมป์กระทำผิด

นางกริสแชมกล่าวว่า ปธน.ทรัมป์เชื่อมั่นว่าวุฒิสภาจะฟื้นฟูกระบวนการที่มีความสงบเรียบร้อย, ยุติธรรมและเหมาะสม ซึ่งทั้งหมดได้ถูกเพิกเฉยในกระบวนการไต่สวนของสภาผู้แทนราษฎร โดยปธน.ทรัมป์พร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไป และมั่นใจว่า เขาจะรอดพ้นจากการถูกถอดถอนโดยสิ้นเชิง

แม้ว่าสภาผู้แทนฯอนุมัติมติถอดถอน นางเพโลซีปฏิเสธที่จะส่งมอบญัตติถอดถอนให้กับวุฒิสภาในทันที โดยระบุถึงความวิตกเกี่ยวกับการพิจารณาที่ไม่เป็นธรรมในการถอดถอนปธน.ทรัมป์ในขั้นตอนของวุฒิสภาซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก

นางเพโลซีกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการลงมติถอดถอนว่า "จนถึงขณะนี้ เรายังไม่เห็นสิ่งใดที่ดูเหมือนจะเป็นธรรมกับเรา"

หนังสือพิมพ์ Politico รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคเดโมแครตว่า สภาผู้แทนฯ ไม่มีแนวโน้มที่จะดำเนินมาตรการที่จำเป็นในการส่งญัตติไปยังวุฒิสภาจนกว่าจะถึงต้นเดือนม.ค. ซึ่งล่าช้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์หรืออาจจะนานกว่านั้น

ขณะเดียวกัน นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภาได้ปฏิเสธข้อเสนอของนายชาร์ลส ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาเกี่ยวกับกรอบการพิจารณาถอดถอนซึ่งจะรวมถึงการให้การของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวทั้งในอดีตและปัจจุบัน

ต่อข้อถามที่ว่า เขาจะเป็นลูกขุนที่เป็นธรรมหรือไม่ นายแมคคอนเนลล์ระบุว่า "เขาไม่ได้เป็นลูกขุนที่เป็นธรรม"

"นี่เป็นกระบวนการทางการเมือง ไม่มีอะไรเกี่ยวกับกฎหมาย" เขากล่าว

นายแมคคอนเนลล์กล่าวว่า เขาจะประสานงานกับทำเนียบขาวในการตัดสินใจเรื่องกลยุทธ์ของพรรครีพับลิกันสำหรับการพิจารณาถอดถอน

ภายใต้รัฐธรรมนูญสหรัฐ สภาผู้แทนฯมีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดี ขณะที่วุฒิสภามีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการตัดสินกระบวนการถอดถอนทั้งหมด

การตัดสินคดีถอดถอนนั้นจะมีขึ้นในวุฒิสภาเท่านั้น และต้องมีการลงมติด้วยเสียงขั้นต่ำ 2 ใน 3 หรือ 67 เสียงจากทั้งหมด 100 เสียงเพื่อลงมติสนับสนุนการถอดถอนหลังการพิจารณาคดี

ในช่วงเวลาที่สภาผู้แทนฯอภิปรายก่อนลงมติถอดถอนนั้น ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า ความพยายามของพรรคเดโมแครตในการถอดถอนเขานั้น เป็นการโจมตีประเทศ และพรรครีพับลิกัน

เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ ปธน.ทรัมป์ได้จัดการรณรงค์หาเสียงในรัฐมิชิแกนซึ่งเป็นรัฐสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงคะแนนสนับสนุนปธน.ทรัมป์ โดยผู้สนับสนุนปธน.ทรัมป์หลายพันคนเข้าร่วมฟังการหาเสียงท่ามกลางอากาศที่หนาวจัด โดยตะโกนร้องว่า "อีก 4 ปี!"

ปธน.ทรัมป์กล่าวระหว่างการหาเสียงว่า "หลังจากสามปีของการล่าแม่มดและการหลอกลวง พรรคเดโมแครตกำลังพยายามทำให้บัตรลงคะแนนของชาวอเมริกันผู้รักชาติหลายสิบล้านคนกลายเป็นโมฆะ" ปธน.ทรัมป์กล่าวในการหาเสียง

สมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนฯได้กล่าวหาว่า ทรัมป์ใช้อำนาจในทางมิชอบในการกดดันรัฐบาลยูเครนทำการสอบสวนนายโจ ไบเดน คู่แข่งทางการเมืองซึ่งอาจจะทำให้เขามีโอกาสได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย

ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในการไต่สวนถอดถอน โดยกล่าวหาว่า พรรคเดโมแครตมีกระบวนการที่ไม่เป็นธรรมโดยมีเป้าหมายเพื่อล้มล้างผลการเลือกตั้งในปี 2559


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ