สายการคาเธ่ย์ แปซิฟิค คาดการณ์ว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
คาเธ่ย์ แปซิฟิค ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า การที่รัฐบาลของหลายประเทศออกมาตรการควบคุมการเดินทาง อันเนื่องมาจากไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในจีนนั้น ส่งผลให้มีการยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก และอาจทำให้สถานการณ์ด้านการเงินของคาเธ่ย์ แปซิฟิค มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับความท้าทายอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก
นอกจากนี้ คาเธ่ย์ แปซิฟิค ระบุว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ดีมานด์การเดินทางทางอากาศลดน้อยลง จนทำให้ทางคาเธ่ย์ แปซิฟิคต้องปรับลดความจุของเที่ยวบิน และคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้ตัดสินใจปรับลดความจุของเที่ยวบินลง 40% ในช่วงเดือนก.พ.-มี.ค. ซึ่งมากกว่าที่วางแผนไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะปรับลดลง 30% นอกจากนี้ คาดว่าจะมีการปรับลดความจุของเที่ยวบินในเดือนเม.ย.เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากเหตุการณ์ประท้วงยืดเยื้อที่ส่งผลให้เศรษฐกิจฮ่องกงเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยกระทรวงสถิติและการสำรวจสำมะโนประชากรของรัฐบาลฮ่องกงเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฮ่องกงหดตัว 1.2% ในปี 2562 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 1 ทศวรรษ โดยได้รับผลกระทบจากความไม่สงบและความวุ่นวายทางการเมือง อันเนื่องมาจากการชุมนุมประท้วงของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลฮ่องกง