ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐทวีตในวันศุกร์ (26 มิ.ย.) ว่า เขาได้ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อปกป้องอนุสาวรีย์และอนุสรณ์สถานต่างๆ ของสหรัฐ ซึ่งข้อความในคำสั่งดังกล่าวระบุว่า รัฐบาลกลางสหรัฐจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับบุคคลใดๆ ก็ตามที่ทำลาย หรือสร้างความเสียหายให้กับอนุสาวรีย์, อนุสรณ์สถาน หรือรูปปั้นต่างๆ ทางประวัติศาสตร์ของสหรัฐ
ปธน.ทรัมป์ได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการอย่างแข็งกร้าวกับบุคคลใดๆ ก็ตาม ที่ทำลายหรือสร้างความเสียหายให้กับอนุสาวรีย์และอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของสหรัฐ และได้ขู่ว่าจะใช้กำลังกับผู้ประท้วงบางคน ในขณะที่การเคลื่อนไหวต่อต้านความอยุติธรรมทางเชื้อชาติได้ขยายวงไปทั่วสหรัฐ หลังการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันผิวสีในช่วงปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศยกเลิกแผนการเดินทางไปยังรีสอร์ทสนามกอล์ฟของเขาในเบดมินสเตอร์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ และระบุว่า เขาจะยังคงอยู่ในกรุงวอชิงตันเพื่อรับประกันว่า จะมีการบังคับใช้กฎหมายและคำสั่งเพื่อรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยในชุมชน
"ผู้วางเพลิง, ผู้นิยมอนาธิปไตย, ผู้ปล้นสะดม และผู้ก่อกวน ได้ยุติการกระทำส่วนใหญ่ลงแล้ว" ปธน.ทรัมป์ระบุในทวิตเตอร์ "ผมจะทำสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้ชุมชนของเราปลอดภัย - และบุคคลเหล่านี้จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม!"
ทั้งนี้ กฎหมายว่าด้วยการสงวนรักษาอนุสรณ์สถานทหารผ่านศึกปี 2546 ได้กำหนดโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปีสำหรับการทำลายหรือพยายามทำลายอนุสรณ์สถานที่รำลึกถึงผู้ที่เคยรับราชการในกองทัพสหรัฐ
นอกจากนี้ คำสั่งของปธน.ทรัมป์ยังขู่ที่จะระงับการสนับสนุนของรัฐบาลกลางสหรัฐต่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐและท้องถิ่นที่ไม่สามารถปกป้องอนุสาวรีย์หรืออนุสรณ์สถานต่างๆ ได้