นักศึกษาต่างชาติต้องเดินทางออกนอกสหรัฐ หากเรียนออนไลน์เต็มรูปแบบ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐ (ICE) ประกาศว่า นักเรียนต่างชาติที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยสหรัฐต้องเดินทางออกนอกสหรัฐ หากมหาวิทยาลัยที่ศึกษาอยู่นั้นเปลี่ยนไปเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนแบบออนไลน์เพียงอย่างเดียวในระหว่างภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วงปี 2563 อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มิฉะนั้นพวกเขาจะเสี่ยงกับการละเมิดสถานะวีซ่าของตนเอง

ICE ระบุในแถลงการณ์ว่า "นักศึกษาต่างชาติที่อยู่ในสหรัฐจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียนเต็มหลักสูตรผ่านทางชั้นเรียนออนไลน์ หากนักศึกษาคนใดพบว่าตนเองอยู่ในข่ายดังกล่าว จะต้องเดินทางออกจากสหรัฐในทันทีหรือใช้ขั้นตอนทางเลือกอื่นเพื่อรักษาสถานะวีซ่าชั่วคราวของตนเองไว้ เช่น การลงทะเบียนเรียนแบบไม่เต็มหลักสูตร หรือลาพักการเรียนด้วยเหตุผลด้านการแพทย์"

ระเบียบฉบับปรับปรุงใหม่โดยโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน (SEVP) ซึ่งดำเนินงานโดย ICE ระบุไว้ว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐจะไม่ออกวีซ่าให้กับนักเรียน-นักศึกษาในโรงเรียนและหรือโครงการใดๆ ที่ใช้การเรียนออนไลน์ทั้งหมดตลอดภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วง รวมถึงสำนักงานศุลกากรและการป้องกันชายแดนสหรัฐ (CBP) ก็จะไม่อนุญาตให้นักเรียนเหล่านั้นเดินทางเข้าสหรัฐ

นักเรียนที่ถือวีซ่าชั่วคราวที่กำลังศึกษาอยู่ในโครงการต่างๆ ดังกล่าว จะต้องเดินทางออกนอกประเทศหรือใช้มาตรการอื่นๆ เช่น ย้ายสถานศึกษาไปยังที่ที่มีการเรียนการสอนแบบปกติเพื่อรักษาสถานะตามกฎหมายไว้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประกาศดังกล่าวมีขึ้น หลังสถาบันอุดมศึกษาในสหรัฐหลายแห่งเริ่มตัดสินใจจะเปลี่ยนไปใช้หลักสูตรออนไลน์อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและพรินซ์ตันเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า จะยอมให้นักศึกษาบางส่วนกลับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ในภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วง แต่จะเป็นหลักสูตรออนไลน์เกือบทั้งหมด

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ในปี 2561 นักเรียนต่างชาติมีส่วนช่วยสร้างรายได้ให้กับสหรัฐมากถึง 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์