ราคาหุ้นของบริษัท Moderna ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ พุ่งขึ้นเกือบ 6% ในวันนี้ หลังเปิดเผยว่า ทางบริษัทได้รับเงินทุนจากรัฐบาลสหรัฐเพิ่มเติมอีก 472 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
เม็ดเงินดังกล่าวจะช่วยสนับสนุน Moderna ในการดำเนินโครงการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟส 3 ซึ่งเริ่มต้นในวันนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้รับเงินทุนจากรัฐบาลจำนวน 483 ล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ (NIH) และ Moderna เปิดตัวโครงการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ในมนุษย์ครั้งใหญ่ที่สุดของโลกในวันนี้ โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการถึง 30,000 คน
วัคซีนดังกล่าวได้รับการพัฒนาโดย NIH และ Moderna โดยอาสาสมัครจะไม่ทราบว่าตนเองได้รับวัคซีนจริงหรือวัคซีนหลอก และหลังจากได้รับวัคซีนจำนวน 2 โดส นักวิทยาศาสตร์ก็จะติดตามดูว่าอาสาสมัครกลุ่มใดที่มีอาการติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น ขณะที่พวกเขาดำเนินชีวิตไปตามปกติ โดยเฉพาะในเขตที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส
นอกจากนี้ เครือข่ายป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (CPN) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ จะเปิดตัวโครงการทดสอบวัคซีนตัวใหม่ทุกเดือนจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยทุกโครงการจะมีอาสาสมัครรายใหม่จำนวน 30,000 คน และในที่สุด นักวิทยาศาสตร์จะทำการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละตัวที่มีการทดสอบ
หากดูตามตารางในขณะนี้ จะมีการทดสอบวัคซีนของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในเดือนส.ค. ขณะที่วัคซีนจากบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จะมีการทดสอบในเดือนก.ย. ส่วนในเดือนต.ค.จะมีการทดสอบวัคซีนของบริษัท Novavax ขณะที่บริษัทไฟเซอร์เตรียมทดสอบวัคซีนในช่วงฤดูร้อนนี้
ตามปกติแล้วจะต้องใช้เวลาหลายปีในการผลิตวัคซีนตัวใหม่ อย่างไรก็ดี สำหรับการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 บรรดานักวิทยาศาสตร์ต่างก็ได้เร่งผลิตวัคซีนอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้รับข้อมูลด้านพันธุกรรมของไวรัสดังกล่าวจากจีนในเดือนม.ค. ขณะที่ทางสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ก็ได้ผ่อนคลายกฎระเบียบแก่บางบริษัท เพื่อให้การพัฒนาวัคซีนเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ทางด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถาบันและหน่วยงานต่างๆทั่วโลกกำลังทำการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวนมากกว่า 150 ตัว โดยจำนวน 25 ตัวกำลังมีการทดลองในมนุษย์
Moderna ยืนยันว่า บริษัทจะสามารถผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 500 ล้านโดสจนถึง 1 พันล้านโดสทุกปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีหน้า