The Lancet ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ รายงานว่า วัคซีนโดสแรกของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ และ BioNTech มีประสิทธิภาพ 85% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวมาจากการที่อิสราเอลได้ทำการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์มากกว่า 7,000 ราย ซึ่งพบว่าวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพ 85% ในการลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากที่มีการฉีดวัคซีนโดสแรกเป็นเวลา 15-28 วัน
นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาการติดเชื้อทั้งหมด โดยรวมถึงผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ พบว่า วัคซีนของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพ 75% ในการลดการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะเดียวกัน บริษัทไฟเซอร์และ BioNTech แถลงในวันนี้ว่า บริษัททั้งสองได้แสดงข้อมูลใหม่ต่อหน่วยงานด้านสาธารณสุขของสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งบริษัททั้งสองพัฒนาร่วมกัน ยังคงมีความเสถียรที่ระดับอุณหภูมิของภาชนะแช่แข็งที่ใช้จัดเก็บยา หรือตู้เย็นทั่วไป
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า วัคซีนของไฟเซอร์จะต้องมีการจัดเก็บในอุณหภูมิ -80 C ถึง -60 C ซึ่งจะจัดเก็บได้นาน 6 เดือน ขณะที่อุณหภูมิระหว่างการขนส่งจะต้องอยู่ที่ -90 C ถึง -60 C ซึ่งจะอยู่ได้นาน 30 วัน
การที่วัคซีนของไฟเซอร์จำเป็นต้องจัดเก็บในอุณหภูมิที่ต่ำมาก ได้สร้างปัญหาต่อการขนส่งวัคซีน โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งแตกต่างจากวัคซีนของบริษัทอื่นที่สามารถจัดเก็บในอุณหภูมิที่สูงกว่าวัคซีนของไฟเซอร์