Changi Airport Group (CAG) ซึ่งเป็นผู้บริหารท่าอากาศยานชางงีของสิงคโปร์ แถลงในวันนี้ว่า ท่าอากาศยานชางงีจะบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้นสำหรับอาคารที่พักผู้โดยสารเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
CAG เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวได้แก่ :-
-- การแบ่งพนักงานดูแลผู้โดยสารขาเข้าและขาออกให้แยกออกจากกัน และให้อยู่ในพื้นที่ต่างโซนกัน โดยพนักงานต่างโซนกันจะไม่สามารถพบปะกัน
-- พนักงานที่ทำงานในโซน 1 ซึ่งเป็นโซนที่มีความเสี่ยงมากที่สุดจะต้องใส่ชุด PPE ตลอดเวลาการทำงาน และพนักงานที่ทำงานในโซนดังกล่าวจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดส
-- พนักงานที่ทำงานในโซน 1 จะต้องได้รับการตรวจเชื้อโควิด-19 ถี่ขึ้น โดยต้องมีการตรวจแบบ PCR ทุก 7 วัน และตรวจแอนติเจนทุก 3 วัน
-- ผู้โดยสารขาเข้าที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงสูงจะต้องถูกพาไปยัง gate ซึ่งอยู่ห่างไกลในอาคารที่พักผู้โดยสาร 2 เพื่อตรวจเอกสารเดินทาง และจะถูกพาไปยังศูนย์กักตัว โดยจะไม่เดินผ่านอาคารที่พักผู้โดยสารอื่น
CAG ตั้งเป้าที่จะบังคับใช้มาตรการดังกล่าวภายในวันที่ 13 มิ.ย.
ขณะนี้ สิงคโปร์กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมจำนวน 61,860 ราย และเสียชีวิต 32 ราย