ผลสำรวจชี้ 30% ของผู้ใหญ่ชาวมะกันปฏิเสธการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

ข่าวต่างประเทศ Wednesday July 7, 2021 10:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สถานีโทรทัศน์ ABC รายงานว่า 30% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐไม่ได้เข้ารับการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และไม่มีแผนที่จะฉีดวัคซีน ซึ่งก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการฟื้นตัวของสหรัฐจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ผลสำรวจของเอบีซี นิวส์/วอชิงตัน โพสต์ระบุว่า ในบรรดาผู้ที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีนนั้น 73% ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของสหรัฐกล่าวเกินจริงเกี่ยวกับความเสี่ยงของไวรัสสายพันธุ์เดลตา และ 79% คิดว่าพวกเขามีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยที่จะติดเชื้อโควิด-19 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาติดต่อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมากต่อผู้ที่ไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีน ขณะที่มีผู้ติดเชื้อดังกล่าวรายใหม่มากกว่า 1 ใน 4 ของประเทศ

รายงานระบุว่า "แผนของรัฐบาลในการจัดการกับโรคระบาดผ่านการฉีดวัคซีนดูเหมือนจะล้มเหลว มีเพียง 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ได้รับวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโดส"

รายงานระบุว่า "ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐคาดการณ์ไว้ที่ 66.8% และยืนยันถึงความล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายของปธน.ไบเดนที่จะฉีดวัคซีนอย่างน้อยโดสแรกให้กับประชาชน 70% ภายในวันที่ 4 ก.ค."

รายงานเสริมว่า "ในบรรดาผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนนั้น 74% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 55% ในเดือนเม.ย.ระบุว่า พวกเขาอาจจะปฏิเสธหรือปฏิเสธอย่างเด็ดขาดที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีน"

ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ระบุ่า เมื่อเย็นวันอังคารที่ผ่านมา สหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แตะ 33.7 ล้านราย และจำนวนผู้เสียชีวิตแตะ 605,000 ราย ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักที่สุดในโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ