กระทรวงสาธารณสุขของเมียนมาตั้งเป้าว่า ชาวเมียนมากว่าครึ่งหนึ่งของประเทศจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ภายในปีนี้ ซึ่งการประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายใหม่สูงเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้
การประกาศเป้าหมายการฉีดวัคซีนในครั้งนี้เกิดขึ้น ในขณะที่เมียนมาพยายามควบคุมยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเพิ่มขึ้นจนยากจะรับมือ หลังกองทัพทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลของนางออง ซาน ซูจีเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
หนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ของรัฐบาลรายงานว่า ประชาชนเมียนมาที่ฉีดวัคซีนแล้วมีเพียง 1.6 ล้านคนเท่านั้นจากทั้งหมด 54 ล้านคน และเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เมียนมากำลังนำเข้าวัคซีนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่า "ประชาชนทุกคนจะได้รับวัคซีนครบสองโดส"
รายงานข่าวระบุว่า วัคซีนของจีน 750,000 โดสคาดว่าจะส่งมาถึงเมียนมาในวันพฤหัสบดีนี้ (22 ก.ค.) และจะทยอยจัดส่งเพิ่มเติมในอีก 2 วันถัดไป
องค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า ได้เร่งพยายามรับมือยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นจนน่ากังวล และคาดว่าเมียนมาจะได้รับวัคซีนจากโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ในปริมาณที่เพียงพอสำหรับประชากร 20% ในปีนี้
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติเมียนมา (MRTV) รายงานโดยอ้างข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขว่า ณ วันที่ 19 ก.ค. เมียนมาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 5,189 ราย และเสียชีวิตสูงเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 281 ราย
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่แพทย์และผู้รับทำพิธีศพระบุว่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตนั้นสูงกว่าตัวเลขที่รัฐบาลของกองทัพได้รายงาน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตก็มีมากจนเผาศพไม่ทัน