สำนักนายกเทศมนตรีกรุงมอสโกประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค. ร้านค้า, บาร์ และร้านอาหารในกรุงมอสโกจะถูกปิดดำเนินการ ยกเว้นร้านที่จำหน่ายสินค้าจำเป็น เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายยา
ประกาศดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่สำนักนายกเทศมนตรีกรุงมอสโกมีคำสั่งวานนี้ให้ประชาชนที่มีอายุเกินกว่า 60 ปี และไม่ได้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้อยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 4 เดือน ขณะที่ภาคเอกชนจะต้องให้พนักงานอย่างน้อย 30% ทำงานที่บ้าน หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในรัสเซีย
คำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 ต.ค.
นอกจากนี้ สำนักนายกเทศมนตรีกรุงมอสโกยังมีคำสั่งให้ศูนย์การค้าต่างๆเชื่อมต่อระบบของกล้องวงจรปิดเข้ากับระบบตรวจจับใบหน้าของกรุงมอสโกเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถบังคับใช้มาตรการสวมหน้ากากอนามัยสำหรับประชาชนในกรุงมอสโก ซึ่งหากศูนย์การค้าใดไม่ปฏิบัติตาม ก็อาจถูกสั่งปิดกิจการ
ทางด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ให้การอนุมัติข้อเสนอของรัฐบาลรัสเซียในการสั่งปิดสถานที่ทำการของภาคธุรกิจทั่วประเทศเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้เสียชีวิตในรัสเซีย
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.จนถึงวันที่ 7 พ.ย. แต่บรรดาพนักงานจะยังคงได้รับเงินเดือนในช่วงที่มีการปิดธุรกิจดังกล่าว
ปธน.ปูตินกล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวอาจมีผลบังคับใช้ก่อนวันที่ 30 ต.ค. และอาจมีการขยายเวลาออกไปเกินวันที่ 7 พ.ย. สำหรับในบางภูมิภาค
ขณะนี้ รัสเซียมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมมากกว่า 8 ล้านราย ซึ่งสูงเป็นอันดับ 5 ของโลก และมีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมมากกว่า 227,000 ราย ซึ่งเป็นอันดับ 5 ของโลกเช่นกัน