อินโดฯส่งกองทัพเรือสกัดลักลอบขนถ่ายน้ำมันปาล์ม ก่อนห้ามส่งออกพรุ่งนี้

ข่าวต่างประเทศ Wednesday April 27, 2022 20:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจูเลียส วิดโจโจโน โฆษกกองทัพเรืออินโดนีเซีย แถลงว่า กองทัพเรือจะทำการลาดตระเวนในน่านน้ำอินโดนีเซียเพื่อป้องกันการลักลอบขนถ่ายน้ำมันปาล์มกลางทะเล

ทั้งนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศระงับการส่งออกน้ำมันปาล์ม โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ หรือเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนของวันนี้ ตามที่ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำมันปรุงอาหารในประเทศ และแก้ไขวิกฤตการณ์ทางการเมือง หลังจากที่กลุ่มนักศึกษาได้ออกมาชุมนุมในหลายเมืองเพื่อขับไล่รัฐบาล เนื่องจากมองว่าประสบความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง ซึ่งรวมถึงน้ำมันปาล์ม

ผลการสำรวจของ Indikator Politik Indonesia พบว่า คะแนนนิยมของปธน.วิโดโดได้ตกต่ำลงเหลือเพียง 59.9% ในเดือนเม.ย. จากเดิมที่พุ่งแตะระดับ 75.3% ในช่วงต้นปีนี้

นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังพบว่า ผู้ถูกสำรวจมากกว่า 60% ต้องการให้รัฐบาลยุติการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อแก้ไขปัญหาราคาแพง และการขาดแคลนภายในประเทศ

ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นได้ทำให้ปธน.วิโดโดประกาศระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 เม.ย. และไม่มีการระบุระยะเวลาของการบังคับใช้คำสั่งดังกล่าว

ปธน.วิโดโดกล่าวว่า รัฐบาลจะยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกดังกล่าวก็ต่อเมื่อสถานการณ์การขาดแคลนน้ำมันปาล์มในประเทศได้บรรเทาลง

ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีปริมาณคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก

การประกาศระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มของอินโดนีเซียสร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลก และทำให้ราคาน้ำมันพืชประเภทอื่นต่างพุ่งขึ้น ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการขาดแคลนสินค้าในตลาด

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียออกมาชี้แจงในเวลาต่อมาว่า คำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มที่มีการประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะมีผลบังคับใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มโอเลอิน ซึ่งได้จากการนำน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์มาผ่านกระบวนการฟอกสี ขจัดกลิ่น และลดกรดไขมันอิสระ (RBD olein) เท่านั้น แต่จะไม่รวมถึงการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบแต่อย่างใด ซึ่งได้ช่วยคลายความกังวลในตลาดจากเดิมที่วิตกว่าอินโดนีเซียจะระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มทุกประเภท

ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า มาตรการระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มของอินโดนีเซียจะไม่สามารถดำเนินไปนานกว่า 1 เดือน เนื่องจากอินโดนีเซียขาดโครงสร้างพื้นฐานในการกักเก็บน้ำมันปาล์มส่วนเกิน และอินโดนีเซียจะเผชิญกับแรงกดดันจากเสียงเรียกร้องของประเทศต่างๆ เพื่อให้อินโดนีเซียกลับมาส่งออกน้ำมันปาล์มในตลาด

ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียเคยประกาศระงับส่งออกน้ำมันปาล์มในเดือนม.ค. ก่อนที่จะยกเลิกประกาศดังกล่าวในเดือนมี.ค.

"ขณะนี้อินโดนีเซียได้กักเก็บสต็อกน้ำมันปาล์มอยู่แล้วราว 5 ล้านตัน ขณะที่มีความสามารถในการกักเก็บเต็มที่ 6-7 ล้านตัน ซึ่งจะเต็มความจุภายในสิ้นเดือนหน้า" ดีลเลอร์รายหนึ่งกล่าว

ด้านนายเอดดี มาร์โตโน เลขาธิการ GAPKI ซึ่งเป็นสมาคมน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย กล่าวว่า "จากการคำนวณง่ายๆ คลังกักเก็บน้ำมันปาล์มทุกแห่งจะเต็มหมดในเวลาไม่ถึง 1 เดือน หากมีการห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มทั้งหมด"

นายมาร์โตโนกล่าวว่า เมื่อไม่มีคลังกักเก็บน้ำมันปาล์ม ก็จะไม่มีการรับซื้อผลปาล์มเพื่อสกัดน้ำมันปาล์ม ซึ่งจะทำให้ผลปาล์มเกิดการเน่าเสียหาย และจะทำให้เกษตรกรลดการผลิต

นอกจากนี้ อินโดนีเซียผลิตน้ำมันปาล์มราว 4 ล้านตันทุกเดือน แต่บริโภคภายในประเทศเพียง 1.5 ล้านตัน ซึ่งจะทำให้มีน้ำมันปาล์มส่วนเกินราว 2.5 ล้านตัน

ขณะเดียวกัน กระทรวงเศรษฐกิจอินโดนีเซียระบุว่า รัฐบาลจะบังคับใช้คำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มจนกว่าราคาน้ำมันปรุงอาหารจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 14,000 รูเปียห์/ลิตร จากระดับ 19,000-20,000 รูเปียห์ในขณะนี้

ราคาสัญญาน้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลืองที่มีการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์กัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียพุ่งขึ้นในวันนี้ ก่อนที่มาตรการระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มของอินโดนีเซียจะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ ราคาสัญญาน้ำมันปาล์มงวดส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 5.4% แตะระดับ 6,743 ริงกิต/ตันในวันนี้ ขณะที่สัญญาน้ำมันถั่วเหลืองดีดตัวขึ้น 1.3% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ