รัสเซียเตรียมประกาศยุติมาตรการทั้งหมดที่ใช้ในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการบังคับสวมหน้ากากอนามัย หลังตัวเลขผู้เสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม รัสเซียพร้อมที่จะนำมาตรการเหล่านั้นกลับมาใช้ หากสถานการณ์ย่ำแย่ลง
สำนักงานกำกับดูแลสวัสดิภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค (Rospotrebnadzor) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสำนักงานกำลังดำเนินการเพื่อระงับใช้มาตรการคุมเข้มที่เคยประกาศใช้ก่อนหน้านี้ รวมถึงการบังคับสวมหน้ากากอนามัย การห้ามจัดงานสังสรรค์ในที่สาธารณะในเวลากลางคืน และมาตรการอื่น ๆ
สำนักงานฯ ระบุว่า สถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 นั้นสอดคล้องกับแนวโน้มทั่วโลก และผู้ติดเชื้อ 93% ที่ได้รับการยืนยันนั้น มีอาการไม่รุนแรงหรือไม่แสดงอาการ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่การระบาดเริ่มขึ้นในรัสเซียเมื่อเดือนเม.ย. 2563 มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนา หรือมีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19จำนวนมากกว่า 800,000 คน และจากการคำนวณของสำนักข่าวรอยเตอร์พบว่า รัสเซียมีผู้ติดเชื้อรวมแล้วมากกว่า 18 ล้านคน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัสเซียพัฒนาและเปิดตัววัคซีนสปุตนิก วี (Sputnik V) อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดการแพร่ระบาด แต่การเข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากชาวรัสเซียจำนวนมากอ้างว่าไม่ไว้วางใจทางการ และวิตกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ใหม่ ๆ ซึ่งส่งผลให้มีประชากรประมาณ 52% ของประชากรทั้งหมดที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส