ธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟไชน่า หรือไอซีบีซี (ICBC) ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มแฮกเกอร์ชื่อดังซึ่งเคยโจมตีองค์กรอื่น ๆ ในสหราชอาณาจักรในปีที่ผ่านมา รวมถึง โบอิ้ง (Boeing) ไอออน เทรดดิ้ง ยูเค (ION Trading UK) และบริษัทการไปรษณีย์อังกฤษ (Royal Mail)
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า กลุ่มแฮกเกอร์ดังกล่าวคือ ล็อคบิท (Lockbit) โดยกลุ่ม Lockbit ได้จัดการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ใส่ธนาคารไอซีบีซีในสหรัฐ ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของสินทรัพย์ในวันพฤหัสบดี (9 พ.ย.) โดยการโจมตีดังกล่าวส่งผลให้ตลาดพันธบัตรของสหรัฐเกิดการหยุดชะงัก การทำธุรกรรมบางส่วนประสบความล้มเหลว และบรรดาเทรดเดอร์ต้องหาช่องทางอื่นในการทำข้อตกลงให้เสร็จสิ้น
อนึ่ง กลุ่ม Lockbit คือกลุ่มอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่มีชื่อเสียงในด้านการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
แผนกบริการทางการเงินของธนาคารไอซีบีซีระบุในแถลงการณ์ว่า การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ส่งผลให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักลง ขณะนี้กำลังดำเนินการสอบสวน และกำลังอยู่ในกระบวนการกู้คืนระบบ
ธนาคารเปิดเผยว่าประสบความสำเร็จในการทำธุรกรรมการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลที่ดำเนินการในวันพุธ (8 พ.ย.) และเสร็จสิ้นการทำธุรกรรมซื้อคืนที่ดำเนินการในวันพฤหัสบดี (9 พ.ย.)
ในการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์นั้น แฮกเกอร์จะเจาะเข้ารหัสและล็อกระบบขององค์กร และเรียกร้องเงินค่าไถ่เพื่อแลกกับการปลดล็อก ในขณะนี้ยังเป็นที่แน่ชัดว่าใครหรือองค์กรใดเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว
ทั้งนี้แม้ว่าการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์จะเพิ่มสูงขึ้นในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่โดยทั่วไปแล้วการโจมตีเหล่านี้แทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินหลัก ๆ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับธนาคารไอซีบีซี อาจก่อให้เกิดการตั้งคำถามว่าสถาบันการเงินและผู้เข้าร่วมตลาดจะสามารถป้องกันตนเองจากการโจมตีทางไซเบอร์ได้หรือไม่ และกระตุ้นให้หน่วยงานกำกับดูแลเข้ามาพิจารณาในเรื่องนี้