สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า อิหร่านได้ส่งมอบขีปนาวุธนำวิถีแบบปล่อยผิวพื้นสู่ผิวพื้นที่ทรงพลังจำนวนมากให้กับรัสเซีย ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ช่วยยกระดับความร่วมมือทางทหารระหว่างอิหร่านและรัสเซีย ซึ่งต่างเป็นประเทศที่ถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐ
แหล่งข่าวอิหร่าน 3 รายเปิดเผยว่า อิหร่านได้จัดส่งขีปนาวุธให้กับรัสเซียประมาณ 400 ลูก รวมถึงขีปนาวุธพิสัยใกล้ตระกูลฟาเตห์-110 (Fateh-110) เช่น ขีปนาวุธซอลฟาการ์ (Zolfaghar) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเป็นขีปนาวุธที่สามารถยิงจากระบบเคลื่อนที่บนท้องถนน และโจมตีเป้าหมายได้ในพิสัยระหว่าง 300-700 กิโลเมตร (186-435 ไมล์)
แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า การจัดส่งขีปนาวุธดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อเดือนม.ค. หลังจากบรรลุข้อตกลงในการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและความมั่นคงของอิหร่านและรัสเซีย ซึ่งจัดขึ้นทั้งในอิหร่านและรัสเซีย
เจ้าหน้าที่ทหารอิหร่านรายหนึ่งระบุว่า มีการจัดส่งขีปนาวุธอย่างน้อย 4 ครั้ง และคาดว่าจะมีการส่งเพิ่มในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสอิหร่านอีกรายกล่าวว่า ขีปนาวุธบางส่วนถูกส่งไปยังรัสเซียทางเรือผ่านทะเลแคสเปียน และมีการส่งผ่านทางอากาศด้วย
ในเดือนต.ค. 2566 ข้อจำกัดของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการส่งออกขีปนาวุธ โดรน และเทคโนโลยีอื่น ๆ ของอิหร่านได้หมดอายุลง อย่างไรก็ตาม สหรัฐและสหภาพยุโรปยังคงคว่ำบาตรโครงการขีปนาวุธของอิหร่าน ท่ามกลางกระแสกังวลเกี่ยวกับการส่งออกอาวุธไปยังพันธมิตรในตะวันออกกลางและรัสเซีย
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมรวมถึงกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติซึ่งรับผิดชอบโครงการขีปนาวุธของอิหร่านปฏิเสธที่จะตอบกลับคำขอความเห็นจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ขณะที่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียยังไม่ได้ตอบกลับการขอความเห็นในทันที