In Focus5 บุคคลทรงอิทธิพลของโลกแห่งปี 2561

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 26, 2018 14:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ปฏิเสธไม่ได้ว่าอำนาจและอิทธิพลถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นตามเป้า หากผู้นำใช้อำนาจและอิทธิพลได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว องค์กรหรือประเทศนั้นๆ ก็จะสามารถผ่านพ้นวิกฤติ ตลอดจนพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ในเชิงสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นตามมาได้ ทว่า การใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้องย่อมนำมาซึ่งความขัดแย้งและความเสียหาย สัปดาห์นี้ In Focus จึงขอรวบรวม 5 บุคคลผู้มีบทบาทและอิทธิพลสำคัญในเวทีโลกมาส่งท้ายปีนี้ว่า แนวคิดและการบริหารงานของแต่ละคนเป็นอย่างไร

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แห่งจีน

เมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้ว สี จิ้นผิง เป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กชาวจีนที่ถูกส่งตัวไปยังชนบท เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตเกษตรกรจีน เขาเป็นบุตรของนายสี จงชุน อดีตรองนายกรัฐมนตรีจีน ผู้ใกล้ชิดประธานาธิบดีเหมา เจ๋อตุง แต่ถูกลดฐานะเป็นเพียงกรรมกร จากกรณีที่อนุญาตให้มีการตีพิมพ์หนังสือเล่มหนึ่งที่มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์ประธานเหมา ก่อนที่บิดาของเขาจะกอบกู้ชื้อเสียงกลับคืนมาได้ภายหลังการอสัญกรรมของประธานเหมา นายสี จิ้นผิง ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนจบการศึกษา และเริ่มมีสายสัมพันธ์กับบุคคลในกองทัพ จนกระทั่งวันนี้ เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดบนโลกใบนี้

นายเอียน เบรมเมอร์ ประธาน Eurasia Group ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมือง กล่าวว่า หลังปธน.สี จิ้นผิง ได้รวมอำนาจพรรคคอมมิวนิสต์จีน พร้อมกับตะโกนคำว่า "ยุคใหม่" ของจีนขึ้นมา ซึ่งเป็นแผนพัฒนาประเทศไปสู่ความเป็นศูนย์กลางในเวทีโลก ในขณะที่เหล่าผู้นำตะวันตกยังคงลังเลเกี่ยวกับแนวทางนโยบายการดำเนินงานของตนในอนาคต ปธน.สี จิ้นผิงได้สร้างประเทศจีนให้กลายเป็นประเทศผู้นำด้านการค้า และมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง นอกจากเวทีด้านการค้าแล้ว ปธน.สี จิ้นผิง ยังสร้างบทบาทความท้าทายด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีให้กับผู้นำตลาดโลกอย่างสหรัฐ พร้อมกับข้อพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของลัทธิสังคมนิยมเชิงวิทยาศาสตร์ ด้วยข้อเท็จจริงที่ยากจะโต้แย้งได้

ในช่วงปีนี้ อำนาจของของปธน.สี จิ้นผิง แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก โดยเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา สภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ได้มีมติเห็นชอบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการยกเลิกข้อกำหนดที่เคยระบุว่า ประธานาธิบดีจีนดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 สมัย หรือ 10 ปี ซึ่งเป็นการปูทางให้ปธน.สี ครองตำแหน่งปธน.ของจีนต่อไป โดยไม่มีกำหนดวาระ ทำให้เขามีบทบาทและอิทธิพลมากขึ้นทั้งในประเทศและเวทีโลก

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ

การชูนโยบาย America First ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างความไม่แน่นอนต่อสถานการณ์โลก รวมถึงสร้างความประหลาดใจให้กับกลุ่มนักการเมืองและนักธุรกิจระดับโลกเป็นอย่างยิ่ง โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ได้บังคับใช้มาตรการใหม่ในด้านต่างๆ รวมไปถึงการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากหลายประเทศ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในตัวเขามากมาย อย่างไรก็ดี นายทรัมป์ได้กล่าวตอบโต้ในประเด็นดังกล่าวว่า สหรัฐจะสนับสนุนการค้าเสรี ภายใต้เงื่อนไขของความยุติธรรมและการเอื้อประโยชน์ต่อกัน

ในปีนี้ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถชูผลงานโดดเด่นในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การจ้างงาน การต่อสู้กับการก่อการร้าย รวมไปถึงการเจรจาสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์กับเกาหลีเหนือ แต่ยังคงไม่สามารถหาทางออกที่เหมาะสมในประเด็นเกี่ยวกับผู้อพยพ การต่างประเทศ และการบริหารรัฐบาล

หลังจากการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา นักวิเคราะห์จึงได้คาดการณ์ว่า แม้จะต้องเผชิญกับข้อพิพาทหลายด้าน แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงเช่นกันที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะยังคงรักษาเก้าอี้ปธน.เป็นสมัยที่ 2 ในปี 2563 เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง บวกกับฐานเสียงของเขาที่ยังมั่นคง

อย่างไรก็ดี ด้วยอุปนิสัยของนายทรัมป์ที่ค่อนข้างหุนหันพลันแล่น ซึ่งมักส่งผลให้การดำเนินการต่างๆ เกิดความสับสน ไม่แน่นอน และติดขัด แต่นั่นก็เป็นเรื่องสนุกที่น่าจับตามองกันต่อไป

เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย

แม้ว่าตำแหน่งกษัตริย์ของซาอุดีอาระเบียจะเป็นของสมเด็จพระราชาธิบดี ซัลมาน บิน อับดุล อาซิส อัล ซาอุด แต่เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ก็ทรงมีบทบาทและอำนาจอย่างมาก เจ้าชายโมฮัมเหม็ดฯ มีแนวทางในการผลักดันนโยบายปฏิรูปซาอุฯ ไปสู่สังคมสมัยใหม่ ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากทั่วโลก โดยเฉพาะการปราบปรามคอร์รัปชั่นภายในประเทศ รวมไปถึงการให้สิทธิสตรีสามารถขับรถบนท้องถนน การเข้าชมงานอีเว้นท์สาธารณะต่างๆ และการจ้างงานในตำแหน่งที่ไม่เคยให้สิทธิสตรีมาก่อน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้ยังมีอีกหลายมุมที่อาจสะท้อนทิศทางในอนาคตของเจ้าชายโมฮัมเหม็ดฯ

มาตรการเดินหน้าปราบปรามการทุจริตครั้งใหญ่ ภายใต้การนำของเจ้าชายโมฮัมเหม็ดฯ ทำให้กลุ่มสมาชิกราชวงศ์ รัฐมนตรี และนักธุรกิจระดับสูงหลายรายถูกจับกุม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองมองว่า การปราบปรามการทุจริตครั้งใหญ่นี้จะส่งผลให้มกุฎราชกุมารมีอิทธิพลมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนยังชี้ว่า แม้ซาอุฯ ได้อนุญาตให้สตรีสามารถขับรถบนท้องถนนได้ แต่ในอีกมุมหนึ่ง สตรีหลายรายที่เคยออกมาเรียกร้องสิทธิในเรื่องดังกล่าวยังคงถูกขังอยู่ในคุก

นอกจากนี้ ข่าวดังแห่งปีอย่างกรณีการสังหารนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุฯ ของวอร์ชิงตันโพสต์ ซึ่งมักวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองภายในประเทศ ได้สร้างแรงกระตุ้นในการเขย่าบัลลังก์ของมกุฎราชกุมารพระองค์นี้ ส่งผลให้ทั่วโลกเริ่มตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับพระปรีชาสามารถของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ในการปกครองประเทศ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจุบันบัลลังก์ของพระองค์ยังดูมั่นคง แต่ถ้าในอนาคตพระองค์ทรงทำผิดพลาดอีก ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมีฝ่ายต่อต้านที่รุนแรงมากพอในการโค่นล้มอำนาจของพระองค์ได้ หรือนั่นอาจเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น เพราะอิทธิพลที่กำลังเพิ่มพูนมากขึ้นของพระองค์อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่จะเข้ามาสร้างบทบาทในการขับเคลื่อนภูมิรัฐศาสตร์ในเขตตะวันออกกลางในอนาคตก็เป็นได้

เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอของบริษัท Amazon.com

เจฟฟ์ เบซอส ก้าวขึ้นสู่ทำเนียบบุคคลร่ำรวยที่สุดของโลกในปี 2562 ด้วยทรัพย์สินสุทธิมูลค่า 1.419 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส แซงหน้าบิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ โดยบริษัท Amazon.com ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกออนไลน์มีมูลค่าทางตลาดมากเป็นอันดับสองของโลก รองจากบริษัท แอปเปิล อิงค์

นายเจมี่ ดิม่อน ซีอีโอของเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ กล่าวว่า กุญแจแห่งความสำเร็จของเจฟฟ์ เบซอส คือการให้ความสำคัญต่อความพึงพอใจของลูกค้าหรือผู้บริโภคอย่างเต็มเปี่ยม เจฟฟ์ เบซอสได้พัฒนา พิสูจน์ และส่งต่อแนวคิดนี้ พร้อมกับการรักษาจุดยืนต่อกลุ่มผู้บริโภคในฐานะศูนย์กลาง นอกจากนี้ เขายังคาดการณ์เกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ

ซีอีโอเจพีมอร์แกน เชส กล่าวเสริมว่า เจฟฟ์ เบซอสให้ความสนใจเกี่ยวกับผู้บริโภคเป็นพิเศษ ในขณะที่บริษัท Amazon.com กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เขาได้สร้างธุรกิจสื่อ ความบันเทิง อาหารสด การท่องเที่ยวอวกาศ รวมถึงธุรกิจการดูแลสุขภาพ เจฟฟ์ เบซอสไม่เคยละเลยความต้องการของลูกค้านับล้านที่เขากำลังให้บริการอยู่ และนั่นคือหนทางแห่งชัยชนะในแวดวงธุรกิจของสหรัฐ อีกทั้งยังเป็นการยกระดับมาตรฐานความต้องการของผู้บริโภคให้สูงขึ้นอีกด้วย

อีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทสเปซเอ็กซ์ และเทสลา มอเตอร์ส

หากลองจินตนการดูว่าอีก 80 ปีข้างหน้า ใครจะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญของเจเนอเรชั่นนี้ อีลอน มัสก์ คงเป็นหนึ่งในคำตอบนั้น เพราะเขาถือเป็นหนึ่งในไม่กี่บุคคลที่ไม่เพียงแค่คิดเรื่องความอยู่รอดของมนุษยชาติในระยะยาว แต่เขาได้ลงมือทำอะไรบางสิ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เช่น โครงการสร้างอาณานิคมบนดาวอังคาร โดยนายมัสก์ชี้ว่าเป็นเรื่องที่ทั่วโลกควรให้ความสนใจอย่างเร่งด่วน เพราะเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยให้มนุษย์โลกอยู่รอดหลัง "ยุคมืด" ที่เกิดจากสงครามโลกครั้งที่สาม โดยนายมัสก์ ได้กล่าวว่า "ผมคิดว่า สงครามโลกจะเกิดขึ้นอีก มันเป็นแบบแผนของเราตั้งแต่อดีตมาโดยตลอด"

นายยูริ มิลเลอร์ ผู้ก่อตั้ง DST Global ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตระดับโลก กล่าวว่า โครงการสร้างอาณานิคมบนดาวอังคารของนายอีลอน มัสก์ถือเป็นการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอวกาศของภาคเอกชน และเขากำลังยกระดับการคมนาคมทางอวกาศ ผ่านแนวคิดพื้นฐาน ความแม่นยำทางเทคนิค และการตลาดที่ชาญฉลาด

โดยบริษัทสเปซเอ็กซ์ ของอีลอน มัสก์ ได้เปิดเผยว่า ทางบริษัทกำลังจัดโปรแกรมนำเที่ยวดวงจันทร์ด้วยจรวดบิ๊กฟอลคอน หรือ จรวด BFR นับเป็นความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ที่จะเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปสานฝันในการท่องอวกาศให้เป็นจริงได้ โดยสเปซเอ็กซ์กำลังมีแผนส่งจรวดลำนี้ขึ้นสู่ห้วงอวกาศในปี 2566 พร้อมกับการประกาศรายชื่อลูกทัวร์คนแรกคือ นายยูซากุ มาเอซาวา มหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์แฟชั่นออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอย่าง Zozotown แม้ว่าขณะนี้ตารางทัวร์ยังไม่มีความแน่ชัด แต่ก็ดูมีความคืบหน้ามากพอที่ทำให้มหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นผู้นี้ยอมควักเงินออกจากกระเป๋าได้

In Focus หวังว่า แนวคิดหรือผลงานของ 5 บุคคลทรงอิทธิพลของโลกประจำปีนี้ จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกท่านได้นำมาปรับใช้ในแง่การดำเนินชีวิตและหน้าที่การงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ดี การใช้อำนาจและอิทธิพลที่ปราศจากหลักมนุษยธรรมย่อมส่งผลให้เกิดความขัดแย้งและความเสียหาย หากทุกคนรู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยปราศจากการแบ่งชนชั้น การไม่หวังผลที่จะเอาชนะ และความเกลียดชังใดๆ ชีวิตก็คงได้พบเจอกับหนทางแห่งความอิสระและความงดงาม


แท็ก In Focus:  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ