ภาวะตลาดอนุพันธ์: ดีดขึ้นก่อนปิดลบเล็กน้อยหลังเผชิญแรงขายทำกำไรตามภูมิภาค-ราคาทองย่อตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 8, 2021 18:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ระหว่างวันทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ดัชนีผันผวนตามตลาดหุ้นต่างประเทศหลังมีแรงขายทำกำไรออกมา

โดยดัชนีช่วงต้นปรับตัวขึ้นจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นจากการโจมตีแหล่งอุตสาหกรรมน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ส่งผลให้หุ้น กลุ่มน้ำมันปรับตัวขึ้นและมีน้ำหนักถ่วง SET50 มาก แต่ระหว่างวันถูกกดดันจากความผันผวนตลาดหุ้นจีน หลังจากทางการจีนแสดงความวิตก กังวลฟองสบู่การเงิน เป็นสัญญาณว่าทางการจีนอาจออกมาตรการคุมเข้มส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม กดดันหุ้นขนาดใหญ่ และทำให้ตลาดหุ้น เซี่ยงไฮ้ปรับลงกว่า 2% รวมทั้งดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็เคลื่อนไหวในแดนลบ ส่งผลกดดัน S50H21 ปรับฐานลงในช่วงบ่าย

นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกกังวลทิศทางอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐที่อาจปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเป็นอีกหนึ่งในตัวเร่ง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ก็ ปรับตัวขึ้น สะท้อนอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินตลาดทุน ล่าสุด Bond Yield ดีดตัวขึ้นไปเหนือ 1.6% เป็นปัจจัยกดดันสำคัญของตลาดหุ้น

แนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดมีทิศทาง sideway up อาจย่อตัวไม่ลึกมากนัก มองภาพดัชนีได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจสหรัฐจะทำให้มีเม็ดเงิน Fund Flow ไหลเข้าตลาด Emerging Market และราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นมีโมเมมตัมพยุงหุ้นได้ต่อ

ให้แนวรับแรกที่ 946 จุด และแนวรับสำคัญที่ 937 จุดถ้าดัชนีอ่อนตัวแนะให้เปิดสถานะ long บริเวณแนวรับแรก หากรับ ความเสี่ยงได้มากให้เปิดสถานะบริเวณแนวรับแรก แต่หากรับความเสี่ยงได้น้อยให้เปิดสถานะบริเวณแนวรับสำคัญ ซึ่งเป็นจุด Stop loss ด้วย และหากดัชนีปรับตัวขึ้นให้ทยอยขายทำกำไรตามแนวต้าน โดยให้แนวต้านแรกที่ 970 จุด แนวต้านสำคัญ 979 จุด

ส่วนราคาทองคำ แนวโน้มโมเมมตัมพักฐานหรือย่อตัวระยะสั้น อาจรอดูการสร้างฐานซึ่งทำระดับต่ำสุดที่ 1,687 เหรียญ สหรัฐ/ออนซ์เมื่อวันศุกร์ที่ 5 มี.ค. ซึ่งต่ำสุดในรอบ 9 เดือน โดยระหว่างวันราคาทองรีบาวด์ขึ้นมาที่ 1,713.77 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ เป็นราคาสูงสุดของวัน และย่อตัวลงมาคาดรับแรงกดดันจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สภาคองเกรสผ่านวงเงิน 1.9 ล้าน ล้านเหรียญสหรัฐ

และนักเศรษฐศาสตร์ได้ปรับประมาณการ GDP สหรัฐในปี 64 เป็นโต 5.5% จากเดิม 4.1% โดยไตรมาส 1/64 เติบโต 4.8% ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในรอบ 3 เดือน และ Bond Yield ทยอยปรับขึ้น กดราคาทองให้ย่อตัว แม้ว่าราคาทองคำได้ แรงหนุนจากการป้องกันเงินเฟ้อ แต่มีแรงซื้อพยุงค่อนข้างจำกัด แนะนำหากราคาทองคำยังอยู่ในทิศทางขาลง ให้ขายออกแล้วค่อยเข้าซื้อ ใหม่ ให้แนวต้านแรก 1,713 และ 1,729 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ถ้าไม่ผ่านมีแนวโน้มย่อตัวลง โดยแนวรับไว้ที่ 1,674 เหรียญสหรัฐ/ ออนซ์ และแนวรับถัดไปที่ 1,662 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์

ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 958.16 จุด ลดลง 0.17 จุด, -0.02%

                              ปริมาณ           สถานะคงค้าง
Total Market                 549,908          2,554,521
Total Futures                540,799          2,461,282
SET50 Index                  200,956            337,201
Sector Index                    -                     -
Single Stock                 260,004          1,999,190
Precious Metal                63,482             73,188
- GF10                         9,316             20,992
- GF50                            44                980
- Gold Online                 53,090             49,085
- Silver Online                1,032              2,131
Deferred Precious Metal            5                  3
- GOLD-D                           5                  3
Currency                      16,277             51,627
Interest Rate                     -                   -
Agriculture                       75                 73
- Japanese Rubber                 75                 73
- RSS3D                           -                   -
- RSS3                            -                   -
Total Options                  9,109             93,239
Call                           3,188             32,009
Put                            5,921             61,230

สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน

                        นักลงทุนสถาบัน       นักลงทุนต่างชาติ         นักลงทุนภายในประเทศ
Futures                    -34,351           -22,770               +57,121
 Options                      -261              +362                  -101

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ