Media Talk: พบกับเทคนิคการจัดทำปฏิทินพีอาร์ กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของการตลาดคอนเทนต์และ SEO

ข่าวต่างประเทศ Monday July 1, 2019 11:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ในฐานะนักการตลาด เราคงจะต้องหงุดหงิดแน่ๆถ้าทีมงานได้ทุ่มเทเพื่อผลิตคอนเทนต์ลงบล็อกดีๆ แต่กลับไม่ค่อยมียอดวิวเท่าที่ควร ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว บอกได้เลยว่า เราไม่ได้รู้สึกอยู่คนเดียว เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีผู้ติดตามบทความราวหนึ่งล้านรายการ และพบว่า 50% จากจำนวนบทความทั้งหมดนี้มีผู้นำไปแชร์ต่อบนโซเชียลมีเดียไม่ถึง 8 ครั้ง และมีถึง 75% ที่ไม่มีโดเมนเชื่อมโยงมายังหน้าบล็อกเลย แล้วนักการตลาดอย่างเราจะต้องทำอย่างไรเพื่อกระตุ้นยอดการเข้าบล็อกโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อทราฟฟิก ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ค่อยจะยั่งยืนนักในระยะยาว

การกระตุ้นให้เกิดยอดทราฟฟิกจริง ๆ คอนเทนต์จำเป็นต้องตรงประเด็นและมีความสำคัญต่อผู้อ่าน เพื่อให้บล็อกเหล่านี้ปรากฏให้เห็นในผลการค้นหาบนเสิร์ชเอนจินเมื่อค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะในแต่ละวันมีการโพสต์บล็อกใหม่ ๆ มากกว่า 5 ล้านรายการ โดยจากประสบการณ์ พบว่าการใช้ปฏิทินในการวางแผนคอนเทนต์เป็นวิธีการที่ได้ผล ซึ่งนักการตลาดแวดวง B2B ราว 52% ก็เห็นด้วยกับวิธีการผลิตคอนเทนต์ที่ตรงประเด็น ต่อเนื่อง และมีความสำคัญ การทำปฏิทินคอนเทนต์ ช่วยจัดสรรทรัพยากร ทำให้คอนเทนต์ไม่ออกนอกลู่นอกทาง และยังทำให้เกิดแนวคิดใหม่ ๆ อีกทั้งยังช่วยลดระดับความเครียดของทีมการตลาดคอนเทนต์

ปฏิทินการเผยแพร่คอนเทนต์ยังมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มโอกาสที่สื่อจะหยิบคอนเทนต์เราไปรายงานต่ออีกด้วย โดยผู้สื่อข่าวถึง 65% ยอมรับว่า มาตรวัดผู้ชม เช่น ยอดวิวและการมีส่วนร่วมนั้น ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวทางที่สื่อใช้ในการประเมินเรื่องราวที่มีแววว่าจะทำเป็นข่าว ซึ่งหมายความว่า ผู้สื่อข่าวอาจนำคอนเทนต์ที่เราจัดทำมาเป็นอย่างดีไปเผยแพร่ต่อ หรือใช้เป็นแหล่งข้อมูลประกอบข่าว หากคอนเทนต์นั้นเกี่ยวข้องกับเทศกาลหรือมหกรรมยักษ์ใหญ่ที่กำลังจะจัดขึ้นในขณะนั้น จนดึงดูดยอดวิวและยอดแชร์ได้เป็นจำนวนมาก ปัจจัยนี้จะช่วยกระตุ้น SEO ของบริษัทเจ้าของคอนเทนต์ เพราะเว็บไซต์สื่อและสำนักพิมพ์รั้งอันดับสูงสุดของหลักการให้คะแนนนิยมของเว็บไซต์ โดยมีผลการศึกษาที่ชี้ว่า เหล่าบริษัทเทคโนโลยีที่วางมีเดีย มากกว่า 5 จุดต่อเดือน สามารถดึงยอดทราฟฟิกจากเสิร์ชเอนจินได้มากกว่าเว็บอื่น ๆ ถึง 29%

อันดับบนกูเกิ้ลสูงเท่าไร ยิ่งดีเท่านั้น!

ข้อมูลจาก Advanced Web Ranking ระบุว่า คอนเทนต์ที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหาในกูเกิ้ล (SERP) นั้น มียอดการคลิกมากกว่าลำดับอื่น ๆ ถึง 50% ดังนั้น นอกเหนือไปจากการติดตามปฏิทินแล้ว นักการตลาดควรที่จะสร้างคอนเทนต์ที่จะอยู่ในอันดับต้น ๆ บน SERP ของกูเกิ้ล อย่างไรก็ตาม การติดอันดับสูง ๆ บนกูเกิ้ลซึ่งเป็นเสิร์ชเอนจิ้นที่มีการใช้งานทั่วโลกกว่า 90% นั้นคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

การใช้พื้นที่บนเสิร์ชเอนจิ้นให้มีประโยชน์สูงสุด (SEO) เริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และการอัปเดตล่าสุดจากกูเกิ้ลก็แสดงให้เห็นว่า เทคนิคต่าง ๆ ที่เคยใช้ได้ผลในการทำ SEO นั้นไม่มีประสิทธิภาพอีกต่อไป ดังนั้น การหาเทคนิคในการทำ SEO ที่อัปเดตสุด ๆ และมีประสิทธิภาพ นักการตลาดจึงควรปรึกษากับกูเกิ้ลด้วยตัวเอง โดยรายงาน Search Engine Optimization (SEO) Starter Guide ของกูเกิลได้รวบรวมเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยทำให้อันดับการแสดงผลบนกูเกิ้ลของเราสูงขึ้น แต่มีหนึ่งเคล็ดลับที่ดูจะโดดเด่นสำหรับนักการตลาดคอนเทนต์เป็นพิเศษ โดยกูเกิ้ลบอกว่า นักการตลาดควรหลีกเลี่ยงการ "ปรับปรุง" คอนเทนต์ที่มีอยู่แล้ว แต่ควรสร้างคอนเทนต์ที่มีความ "สดใหม่ ไม่เหมือนใคร" เพื่อให้สามารถไต่ขึ้นอันดับสูง ๆ บนการแสดงผลลัพธ์การค้นหาของกูเกิ้ล

ปฏิทินสำหรับการประชาสัมพันธ์คืออะไร

สำหรับมือใหม่ในวงการนี้ ปฏิทินพีอาร์คือการรวบรวมวันที่สำคัญของตลาดต่าง ๆ อาทิ วันหยุดนักนักขัตฤกษ์ วันหยุดราชการ และการประชุมของอุตสากรรมต่าง ๆ

นักการตลาดสามารถสร้างปฏิทินพีอาร์ของตัวเองได้ด้วยการสำรวจตลาดเป้าหมายอย่างละเอียดรอบคอบ หรืออาจใช้วิธีง่าย ๆ อย่างการปรับเปลี่ยนปฏิทินที่มีอยู่เดิม สำหรับตัวอย่างที่ดีสำหรับนักการตลาดในภูมิภาคเอเชียคือปฏิทินพีอาร์ของพีอาร์นิวส์ไวร์ เนื่องจากปฏิทินนี้ได้รวบรวมวันหยุดและกิจกรรมที่สำคัญซึ่งเหมาะสำหรับลูกค้าในกลุ่มเอเชียอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นต้นแบบสำหรับการสร้างปฏิทินคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับการประชาสัมพันธ์โดยเฉพาะ เพื่อผลิตคอนเทนต์ที่มีความ "สดใหม่ ไม่เหมือนใคร" ตามคำแนะนำของกูเกิล

การสร้างปฏิทินประชาสัมพันธ์ให้เหมาะสม

แค่ชำเลืองมองอย่างเร็วๆ ไปยังปฏิทินประชาสัมพันธ์ ก็จะเห็นได้ว่ามีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นแทบทุกวัน ในเกือบทุกพื้นที่ทั่วเอเชีย ในแต่ละเดือน ดังนั้น นักการตลาดไม่จำเป็นต้องพยายามทำให้คอนเทนต์เชื่อมโยมกับทุกกิจกรรมที่ปรากฏบนปฏิทิน แต่ควร "ร่างแบบ" ปฏิทินของตัวเองให้เหมาะสมและเลือกใช้เฉพาะกับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ รวมถึงสิ่งสำคัญกว่านั้น ซึ่งก็คือ "กลุ่มเป้าหมายของเรา"

อันดับแรก นักการตลาดควรทำความคุ้นเคยกับประเภทของเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกไว้ในปฏิทินประชาสัมพันธ์ ได้แก่:

  • วันหยุดนักขัตฤกษ์
  • วันสำคัญสากล ซึ่งองค์กรต่าง ๆ ได้กำหนดขึ้นมาเพื่อกระตุ้นความใส่ใจในอะไรบางอย่าง
  • วันที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงเหตุการณ์หรือบุคคลสำคัญ
  • เทศกาล - ทั้งที่เป็นสาธารณะและในเชิงพาณิชย์
  • การประชุม

ต่อมา เราควรประเมินผลกระทบที่สำคัญ ๆ ของแต่ละกิจกรรมที่จะส่งผลต่อการค้นหาข้อมูลของลูกค้า การประเมินคุณค่าเนื้อหาเฉพาะของบริษัทกับกิจกรรมเหล่านั้น อาจต้องคำนึงถึงจุดสำคัญๆ อย่างปริมาณการค้นหาคีย์เวิร์ดที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกันก็ต้องคอยเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของคู่แข่งจากคีย์เวิร์ดดังกล่าวด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม แม้วันหยุดนักขัตฤกษ์ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่น่าถูกค้นหามากที่สุด แต่อย่าลืมว่าคีย์เวิร์ดนี้อาจมาพร้อมการแข่งขันทึ่สูงมากจนยากต่อการไต่อันดับขึ้นไปจนเตะตาลูกค้าเป้าหมายของเรา ในทางกลับกัน เทศกาล งานประชุม และวันสำคัญสากลทั้งหลาย ที่แม้จะมีปริมาณการค้นหาที่น้อยกว่า แต่ก็อาจเป็นคีย์เวิร์ดที่ได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าของเราก็เป็นได้

ขั้นตอนสุดท้าย นักการตลาดควรจะพิจารณาว่ากิจกรรมใดมีความสัมพันธ์ในทางที่ดีกับแบรนด์ แล้วโฟกัสไปที่กิจกรรมเหล่านั้น เช่น แบรนด์ B2C ทั้งหลายมักจะทำผลงานได้ดีในวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่ผู้คนนิยมมองหาของขวัญตามฤดูกาลต่างๆ ในทางกลับกัน B2B ก็ควรโฟกัสไปยังการประชุม, เทศกาล, กิจกรรม ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม ดังนั้นแบรนด์ B2B จึงต้องคอยติดตามและเลือกใช้หัวข้อที่กำลังเป็นที่นิยมหลังจากที่กิจกรรมสำคัญๆในอุตสาหกรรมได้สิ้นสุดลง และอาจนำหัวข้อเหล่านั้นมาใส่ไว้ในคอนเทนต์สำหรับกิจกรรมที่กำลังจะจัดขึ้นในปฏิทินประชาสัมพันธ์ของแบรนด์ ส่วนวันสำคัญในระดับสากลมักจะเป็นกิจกรรมที่สามารถใช้กับแบรนด์ใดๆก็ได้ โดยอาศัยการสร้างคอนเทนต์ที่เชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับการสนับสนุนกิจกรรมนั้นๆออกมา

ผนวกข่าวประชาสัมพันธ์และคอนเทนต์แบบไมโครซอฟต์ เอเชีย

เมื่อปี 2557 ไมโครซอฟต์ เอเชีย (Microsoft Asia) ได้เปิดตัว Microsoft Asia News Center และปรับโฉมข่าวประชาสัมพันธ์มาอยู่ในรูปแบบห้องข่าว ซึ่งผสานข่าวประชาสัมพันธ์ รวมถึงสื่อแบบ Earned media ด้วยคอนเทนต์ในสื่อที่แบรนด์เป็นเจ้าของเอง

ปัจจุบัน สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคต่างนำเสนอคอนเทนต์ผ่านเว็บไซต์ขนาดเล็กที่หลากหลาย:

  • Microsoft Asia News Center
  • บล็อก Microsoft Asia
  • เว็บไซต์เฉพาะหัวข้อ เช่น Education Asia

ไมโครซอฟต์สามารถใช้ประโยชน์จากปฏิทินข่าวประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์เหล่านี้ และสอดแทรกคอนเทนต์ของบริษัทลงในกิจกรรมที่สามารถปรับแต่งได้มากมาย:

          ชนิดของงาน          คำบรรยายและเรื่องที่เกี่ยวข้อง               ภาพจับหน้าจอและรูปภาพ
          งานเสวนา           แบ่งปันวิธีการที่นักพัฒนาอาจใช้ประโยชน์

จากเทคโนโลยีที่จัดแสดงในงาน

Microsoft Build 2019

ซึ่งเป็นงานเสวนาสำหรับนักพัฒนาประจำปี

เพื่อสร้างโซลูชั่นอัจฉริยะ

งานระดับนานาชาติ เน้นว่า โครงการ Seeing AI

ของ Microsoft ช่วยเหลือคนตาบอดอย่างไร

ในวันตระหนักรู้คุณภาพชีวิตคนพิการโลก

วันหยุดของภูมิภาค ด้วยจิตวิญญาณของเดือนรอมฎอน

ซึ่งเป็นเทศกาลท้องถิ่นที่สำคัญ เมื่อไม่นานมานี้

ทางไมโครซอฟท์ มาเลเซีย ได้แจกจ่ายขนม

สำหรับพิธีละศีลอดและวันฮารีรายอ

แก่ตำรวจจราจรของกรุงกัวลาลัมเปอร์

ไมโครซอฟต์ เอเชีย ใช้รูปแบบข่าวประชาสัมพันธ์และคอนเทนต์ที่มีรูปแบบการผลิตเนื้อหา ที่ผนวกข่าวประชาสัมพันธ์เข้ากับการตลาดเชิงเนื้อหา พร้อมเพิ่มยอดการเข้าถึงด้วยข่าวประชาสัมพันธ์สำหรับเหตุการณ์สำคัญ เช่น Microsoft Build การผนวกรวมกันนี้ทำให้ไมโครซอฟต์สามารถเข้าถึงและดึงดูดผู้ชมจำนวนมากขึ้น เมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นเวลา 3 ปี หลังจากเปิดตัวรูปแบบห้องข่าว WARC รายงานว่าเว็บไซต์ของไมโครซอฟต์ เอเชีย มีผลการค้นหาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2559 ตลอดจนได้รับการเข้าชมมากกว่า 580,000 ครั้ง และมีผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ไม่ซ้ำกันถึง 440,000 คน

มอบคอนเทนต์ที่มีคุณค่าให้กับผู้อ่าน

ปฏิทินประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้เราแน่ใจได้ว่าจะไม่มีอะไรมาทำให้เราต้องเซอร์ไพรส์และยังไม่ต้องวุ่นวายเพื่อรวบรวมคอนเทนต์สำหรับแต่ละเทศกาลเข้าด้วยกันในนาทีสุดท้าย นอกจากนี้ เรายังจะมีเวลาเตรียมตัวสำหรับงานใหญ่ๆได้ดียิ่งขึ้น และมีเวลาเหลือที่จะปรับปรุงคอนเทนต์และการมีส่วนร่วมให้เหมาะสม ทำให้ข่าวประชาสัมพันธ์และ SEO ของเรามีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

ดังนั้น ต้องทำให้คอนเทนต์ในปฏิทินเพื่อการประชาสัมพันธ์ของเรามีคุณค่าสำหรับผู้อ่าน และแทบจะไม่มีประโยชน์เลยที่จะพัฒนา SEO ด้วยคอนเทนต์ใหม่ๆ เพียงเพื่อจะถูกกูเกิลลงโทษเพราะคอนเทนต์ของเรามีเนื้อหาที่ไม่ดี

เกี่ยวกับผู้เขียน

Jeff Rajeck เป็นนักวิจัย นักเขียน ผู้ฝึกสอน และที่ปรึกษาที่ Econsultancy และ Click Academy ประจำเอเชียแปซิฟิก โดยมีฐานอยู่ในสิงคโปร์ Jeff มีพื้นฐานด้านการเงินและการวิเคราะห์ และเป็นผู้เขียนบทความประจำที่บล็อก Econsultancy และให้บริการคำปรึกษากับแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียในด้านแนวโน้มการตลาด แนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุด และการวิเคราะห์

ที่มา: พีอาร์นิวส์ไวร์


แท็ก บล็อก  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ