สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (22 ม.ค.) ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ได้รับรายงานอาการไม่พึงประสงค์หลังจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของโมเดอร์นา (Moderna) จากผู้ที่ได้รับการวัคซีนจำนวนมากกว่า 1,200 คนเมื่อนับถึงวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยพบผู้เกิดอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลันจำนวน 10 คน
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐประกาศอนุมัติการใช้งานวัคซีนของโมเดอร์นาในกรณีฉุกเฉินเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2563 ซึ่งจะมีการแบ่งฉีดเป็น 2 โดส ห่างกันโดสละ 1 เดือน
CDC รายงานว่ามีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโดสแรกของโมเดอร์นาในสหรัฐแล้ว 4,041,396 คนเมื่อนับถึงวันที่ 10 ม.ค. ก่อนที่ระบบรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีน (VAERS) ของสหรัฐได้รับแจ้งอาการจากผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนกลุ่มดังกล่าวรวม 1,266 ราย โดยในจำนวนนี้ 108 ราย จะถูกตรวจสอบเพิ่มเติมว่าอาจมีโอกาสเกิดอาการแพ้ขั้นรุนแรงหรือไม่ ซึ่งรวมถึงอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน
ทั้งนี้ อาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลันเป็นอาการแพ้ที่มีอันตรายถึงชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนักหลังการฉีดวัคซีน ซึ่งโดยปกติแล้วจะเริ่มมีอาการภายในไม่กี่นาทีหรือชั่วโมง
CDC เปิดเผยว่า ผู้ได้รับการฉีดวัคซีนที่แจ้งอาการไม่พึงประสงค์ 10 รายนั้นได้รับการยืนยันแล้วว่า มีอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2.5 คนต่อผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนของโมเดอร์นาจำนวน 1 ล้านคน ขณะที่ระยะเวลาตั้งแต่การฉีดวัคซีนไปจนถึงเริ่มมีอาการนั้นโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 7.5 นาที
CDC เรียกร้องสถานฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้วัคซีนอย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงการตรวจคัดกรองประวัติผู้เข้ารับวัคซีน การจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็น และเตรียมเจ้าหน้าที่สำหรับรักษาอาการภูมิแพ้, สังเกตอาการหลังฉีดวัคซีนตามระยะเวลาที่แนะนำ และทำการรักษาผู้ต้องสงสัยว่าจะมีอาการแพ้ในทันทีโดยการฉีดอะดรีนาลีนเข้ากล้ามเนื้อ