กรุงเทพ--12 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
นายสเวน อัลคาไล (Sven Alkalaj) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา จะเดินทางมาเยือนไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 11 — 13 พฤศจิกายน 2550 ซึ่งนับเป็นการเยือนไทยในระดับสูงครั้งแรกจากฝ่ายบอสเนียฯ นับตั้งแต่ได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อปี 2543
การเยือนไทยครั้งนี้ของนายอัลคาไล เป็นส่วนหนึ่งของการเยือนอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นการกระชับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ระหว่างการเยือนประเทศไทย นายอัลคาไลมีกำหนดเข้าพบหารือกับนายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในวันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา 11.00 น. ณ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคี อาทิ การส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการค้า ลู่ทางความร่วมมือด้านอาหารฮาลาล (เนื่องจากประชากรบอสเนียฯ ร้อยละ 40 เป็นชาวมุสลิม) ความตกลงทวิภาคี และการจัดตั้งสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ในเมืองหลวงของกันและกัน โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายจะได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือในเวทีองค์การระหว่างประเทศที่สำคัญ อาทิ สหประชาชาติ และองค์การการประชุมอิสลาม (OIC) ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองของทั้งสองประเทศ จากนั้น นายอัลคาไลยังมีกำหนดการพบหารือกับผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยอีกด้วย ทั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้ว นายอัลคาไล มีความรู้สึกที่ดีและมีความรอบรู้เกี่ยวกับประเทศไทย เนื่องจากมีความผูกพันกับประเทศไทยในช่วงดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท Energoinvest ประจำประเทศไทย ระหว่างปี 2531 — 2537
ไทยและบอสเนียฯ มีความสัมพันธ์ที่ราบรื่น โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่ให้การรับรองบอสเนียฯ ภายหลังการแยกตัวออกจากยูโกสลาเวีย โดยได้สถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างกันเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2543 นับแต่นั้น ไทยได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบูดาเปสต์ มีเขตอาณาดูแลบอสเนียฯ ขณะที่ฝ่ายบอสเนียฯ ได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตบอสเนียฯ ประจำมาเลเซีย มีเขตอาณาครอบคลุมถึงประเทศไทย อย่างไรก็ดี ไทยและบอสเนียฯ มีความสัมพันธ์กันมายาวนาน ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เคยเสด็จ ฯ เยือนกรุงซาราเยโว (เมืองหลวงของบอสเนียฯ) อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคม 2532 เมื่อครั้งที่บอสเนียฯ ยังเป็นส่วนหนึ่งของยูโกสลาเวีย
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและบอสเนียฯ ไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่บอสเนียฯ โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมปฏิบัติการในกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติที่บอสเนียฯ ระหว่างปี 2540 — 2545 บอสเนียฯ เป็นมิตรที่ดีของไทยในองค์การระหว่างประเทศที่สำคัญต่างๆ ในด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ไทยและบอสเนียฯ มีมูลค่าการค้าระหว่างกันไม่สูงมากนัก อย่างไรก็ดี บอสเนียฯ นับเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจของไทยเนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่นิยมบริโภคข้าวซึ่งถือเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย ปัจจุบันสินค้าไทยส่วนใหญ่ที่เข้าไปวางจำหน่ายในบอสเนียฯ คือสินค้าบริโภค นอกจากนี้ บอสเนียฯ ยังส่งออกวัตถุดิบที่ไทยให้ความสนใจและสามารถนำเข้าเพื่ออุตสาหกรรมได้ ได้แก่ เหล็ก อลูมิเนียม และบอกไซต์ ขณะเดียวกัน บอสเนียฯ ยังสนใจที่จะร่วมมือกับไทยในการพัฒนาอาหารฮาลาลเพื่อผลักดันให้บอสเนียฯ เป็นศูนย์กลางของสินค้าฮาลาลในสหภาพยุโรปต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
นายสเวน อัลคาไล (Sven Alkalaj) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา จะเดินทางมาเยือนไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 11 — 13 พฤศจิกายน 2550 ซึ่งนับเป็นการเยือนไทยในระดับสูงครั้งแรกจากฝ่ายบอสเนียฯ นับตั้งแต่ได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อปี 2543
การเยือนไทยครั้งนี้ของนายอัลคาไล เป็นส่วนหนึ่งของการเยือนอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นการกระชับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ระหว่างการเยือนประเทศไทย นายอัลคาไลมีกำหนดเข้าพบหารือกับนายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในวันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา 11.00 น. ณ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคี อาทิ การส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการค้า ลู่ทางความร่วมมือด้านอาหารฮาลาล (เนื่องจากประชากรบอสเนียฯ ร้อยละ 40 เป็นชาวมุสลิม) ความตกลงทวิภาคี และการจัดตั้งสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ในเมืองหลวงของกันและกัน โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายจะได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือในเวทีองค์การระหว่างประเทศที่สำคัญ อาทิ สหประชาชาติ และองค์การการประชุมอิสลาม (OIC) ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองของทั้งสองประเทศ จากนั้น นายอัลคาไลยังมีกำหนดการพบหารือกับผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยอีกด้วย ทั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้ว นายอัลคาไล มีความรู้สึกที่ดีและมีความรอบรู้เกี่ยวกับประเทศไทย เนื่องจากมีความผูกพันกับประเทศไทยในช่วงดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท Energoinvest ประจำประเทศไทย ระหว่างปี 2531 — 2537
ไทยและบอสเนียฯ มีความสัมพันธ์ที่ราบรื่น โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่ให้การรับรองบอสเนียฯ ภายหลังการแยกตัวออกจากยูโกสลาเวีย โดยได้สถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างกันเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2543 นับแต่นั้น ไทยได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบูดาเปสต์ มีเขตอาณาดูแลบอสเนียฯ ขณะที่ฝ่ายบอสเนียฯ ได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตบอสเนียฯ ประจำมาเลเซีย มีเขตอาณาครอบคลุมถึงประเทศไทย อย่างไรก็ดี ไทยและบอสเนียฯ มีความสัมพันธ์กันมายาวนาน ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เคยเสด็จ ฯ เยือนกรุงซาราเยโว (เมืองหลวงของบอสเนียฯ) อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคม 2532 เมื่อครั้งที่บอสเนียฯ ยังเป็นส่วนหนึ่งของยูโกสลาเวีย
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและบอสเนียฯ ไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่บอสเนียฯ โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมปฏิบัติการในกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติที่บอสเนียฯ ระหว่างปี 2540 — 2545 บอสเนียฯ เป็นมิตรที่ดีของไทยในองค์การระหว่างประเทศที่สำคัญต่างๆ ในด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ไทยและบอสเนียฯ มีมูลค่าการค้าระหว่างกันไม่สูงมากนัก อย่างไรก็ดี บอสเนียฯ นับเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจของไทยเนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่นิยมบริโภคข้าวซึ่งถือเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย ปัจจุบันสินค้าไทยส่วนใหญ่ที่เข้าไปวางจำหน่ายในบอสเนียฯ คือสินค้าบริโภค นอกจากนี้ บอสเนียฯ ยังส่งออกวัตถุดิบที่ไทยให้ความสนใจและสามารถนำเข้าเพื่ออุตสาหกรรมได้ ได้แก่ เหล็ก อลูมิเนียม และบอกไซต์ ขณะเดียวกัน บอสเนียฯ ยังสนใจที่จะร่วมมือกับไทยในการพัฒนาอาหารฮาลาลเพื่อผลักดันให้บอสเนียฯ เป็นศูนย์กลางของสินค้าฮาลาลในสหภาพยุโรปต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-