รักษาการโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงข่าวกรณีผู้สื่อข่าวไทยรายงานข่าวการสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระวรราชบิดา ที่กรุงพนมเปญ

ข่าวต่างประเทศ Monday October 22, 2012 13:30 —กระทรวงการต่างประเทศ

          เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๕  นายดำรง ใคร่ครวญ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ รักษาการโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพิ่มเติมกรณีมีการเผยแพร่ภาพนางสาว ฐปนีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๓ ในระหว่างการรายงานข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จ                         พระนโรดม สีหนุ ฯ บริเวณหน้าพระบรมหาราชวังของกัมพูชา สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

๑. ในนามกระทรวงการต่างประเทศ ขอขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาที่ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้ให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการในส่วนของฝ่ายไทย โดยละเอียด เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของประชาชนกัมพูชา

๒. โดยคำนึงถึงความละเอียดอ่อนของประเด็นดังกล่าว และเพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยและกัมพูชา ขอเรียนย้ำเพื่อ ความชัดเจนถึงการดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ในทุกระดับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๕ อย่างต่อเนื่อง ดังนี้

                    ๒.๑ การดำเนินการของนางสาวฐปนีย์ฯ  - นางสาวฐปนีย์ฯ ได้เดินทางไปขอพระราชทานอภัยโทษต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ฯ ด้านหน้าพระบรมมหาราชวังของกัมพูชา ในทันทีที่ได้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และในวันต่อมา ได้เดินทางกลับประเทศไทย                               ตามคำแนะนำของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ และได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไทย แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอโทษต่อเหตุการณ์                           ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้เจตนา หลังจากนั้น ได้เดินทางไปลงนามถวายความอาลัยและขอพระราชทานอภัยโทษต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ฯ ที่สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย นอกจากนี้ วานนี้ นางสาวฐปนีย์ฯ ได้จัดทำจดหมายส่วนตัวเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษไปยังพระบรมวงศานุวงศ์กัมพูชา และขอโทษต่อรัฐบาลและประชาชนกัมพูชา ตามลำดับ

๒.๒ การดำเนินการของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๓ - เมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๕ ผู้บริหารระดับสูงของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๓ ได้เดินทางไปพบนาง Ros Serey อุปทูต สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เพื่อขอโทษต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และต่อมา สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๓ ได้ออกแถลงการณ์ขอพระราชทานอภัยโทษต่อพระบรมวงศานุวงศ์กัมพูชา รวมทั้งขอโทษต่อรัฐบาลและประชาชนกัมพูชา

                    ๒.๓ การดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ -  กระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด                              โดยเมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๕ นายภาสกร ศิริยะพันธุ์ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อชี้แจง                              ข้อเท็จจริงและยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาในทุกระดับ นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้พยายามชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องดังกล่าวกับผู้บริหารระดับสูงของกัมพูชา โดยล่าสุด เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้เข้าพบหารือกับนายอึง เซียน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา และได้เน้นย้ำถึงการกระทำที่ไร้เจตนาของนางสาวฐปนีย์ฯ ตลอดจน                              แสดงความประสงค์ที่จะร่วมมือกับฝ่ายกัมพูชาในการจำกัดปัญหามิให้ลุกลามต่อไป
                    ๒.๔ การดำเนินการของรัฐบาล - นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญต่อประเด็นปัญหาในเรื่องนี้ ซึ่งตามที่ปรากฏในแถลงการณ์ของฝ่ายกัมพูชา นายกรัฐมนตรีได้มีการสนทนาทางโทรศัพท์เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา และในวันนี้               เวลา ๑๓.๐๐ น. นายกรัฐมนตรีและคณะ มีกำหนดเดินทางไปยังกรุงพนมเปญ เพื่อถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ฯ และจะเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี และสมเด็จพระราชินี นโรดม มุณีนาถ สีหนุ พระวรราชมารดา และเข้าพบนายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย

๓. ประเทศไทยมีความประสงค์ที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์กับกัมพูชาให้มีความอบอุ่นและใกล้ชิด เมื่อเกิดเหตุที่อาจจะกลายเป็นประเด็นในความสัมพันธ์ระหว่างกัน ก็พยายามที่จะดำเนินการเพื่อแก้ไขสถานการณ์โดยรวดเร็ว และผู้นำระดับสูงของประเทศไทยได้ลงมากำกับดูแลและได้ดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ด้วยตนเอง จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนกัมพูชาจะมีความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจตนาดีของรัฐบาลไทย และช่วยรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืนระหว่างกันต่อไป

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ