ไทยจัดส่งรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย ฉบับแก้ไข ครั้งที่ ๑ ให้ CITES

ข่าวต่างประเทศ Friday January 16, 2015 16:41 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๘ ไทยได้จัดส่งรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย ฉบับแก้ไข ครั้งที่ ๑ ให้สำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) เรียบร้อยแล้ว มีความก้าวหน้าที่สำคัญใน ๕ ประเด็นหลัก เพื่อแก้ไขปัญหาการค้างาช้างผิดกฎหมายในประเทศ ได้แก่

๑. การแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถควบคุมการค้างาช้างบ้านและปราบปรามการลักลอบค้างาช้างแอฟริกาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่

๑.๑ การแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ (๖ มาตรา) เพื่อกำหนดให้ช้างแอฟริกาเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยผู้ที่ครอบครองงาช้างแอฟริกาก่อนหน้านี้จะไม่สามารถขออนุญาตครอบครองต่อไปได้ เพราะกฎหมายกำหนดให้ตกเป็นของแผ่นดิน เว้นแต่มีหลักฐานการได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้ง

ห้ามการค้างาช้างป่าหรืองาช้างแอฟริกาโดยเด็ดขาด

๑.๒ การออก พ.ร.บ. งาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อควบคุมการค้างาช้าง รวมถึง การนำเข้าส่งออก และการครอบครองงาช้างหรือผลิตภัณฑ์งาช้างบ้าน

๑.๓ การปรับปรุงกฎหมายรอง จำนวน ๑๗ ฉบับ อาทิ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วย

การสัตว์พาหนะ เพื่อกำหนดรูปแบบใหม่ของตั๋วรูปพรรณช้างที่กำหนดข้อมูลประจำตัวช้าง เช่น หมายเลขไมโครชิพ ข้อมูล DNA เพื่อป้องกันการลักลอบนำช้างป่าและงาช้างผิดกฎหมายมาสวมทะเบียน

๒. การจัดทำระบบจดทะเบียนงาช้างในประเทศอย่างครบวงจร ประกอบด้วย

๒.๑ การปรับปรุงระบบทะเบียนข้อมูลผู้ค้างาช้างและรายการสินค้างาช้าง เพื่อรองรับการขออนุญาตค้างาช้างตามกฎหมายใหม่ ปัจจุบันมีร้านค้างาช้างจดทะเบียนรวม ๒๖๐ ราย

๒.๒ การจัดทำระบบทะเบียนข้อมูลการครอบครองงาช้างบ้านและงาช้างแอฟริกา เพื่อรองรับการแจ้งครอบครองงาช้างของประชาชนทั่วไป โดยจะเชื่อมโยงฐานข้อมูลการครอบครองงาช้างและการค้างาช้าง

๒.๓ การปรับปรุงระบบทะเบียนข้อมูลงาช้างของกลาง โดยเชื่อมโยงข้อมูลงาช้างของกลางที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานต่าง ๆ สู่ระบบฐานข้อมูลกลางของประเทศ เพื่อให้การจัดการและควบคุมดูแลงาช้างของกลางภายในประเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้น

๓. การปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยมีการจัดตั้งสายตรวจการค้างาช้างทั่วประเทศ

๒๒ สาย จัดตั้งชุดปฏิบัติการร่วม ๑๑ ชุด และเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบในพื้นที่เป้าหมายและพื้นที่เฝ้าระวัง โดยเฉพาะบริเวณชายแดน ท่าเรือ ท่าอากาศยาน และการขนส่งไปรษณีย์ การจัดทำเครื่องหมายประจำงาช้าง

ของกลาง โดยมีการจับกุมผู้กระทำผิดคดีรายใหญ่ได้ ๒ คดี งาช้างน้ำหนักรวม ๑๖๕.๗ กิโลกรัม

๔. การประชาสัมพันธ์ ซึ่งได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักได้แก่ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ผู้ค้างาช้างและเจ้าของช้าง และประชาชนทั่วไป ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ อาทิ

www.thailandtoday.in.th www.tourismthailand.org และ www.tatnew.org

๕. การจัดตั้งกลไกในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการ CITES ประจำประเทศไทย ๔ คณะ ในประเด็นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ด้านการออกระเบียบและกฎหมาย ด้านการจัดทำระบบทะเบียนข้อมูล ด้านการบังคับใช้กฎหมาย และด้านการประชาสัมพันธ์ ซึ่งจะต้องรายงานต่อคณะกรรมการ CITES ประจำประเทศไทย และนายกรัฐมนตรีเป็นระยะ ๆ

--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--


แท็ก งาช้าง  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ