สัมมนาเจ้าหน้าที่กงสุลทั่วโลก ๒๕๖๒ ขับเคลื่อนเครือข่ายเพื่อนกงสุลร่วมพัฒนา e-Consular เพื่อประชาชน

ข่าวต่างประเทศ Friday July 19, 2019 13:45 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนาเจ้าหน้าที่กงสุลทั่วโลก ประจำปี ๒๕๖๒ ระหว่างวันที่ ๘ - ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ลาดพร้าว โดยมีนายชัยสิริ อนะมาน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและนายธานี ทองภักดี รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วม

การจัดสัมมนาเจ้าหน้าที่กงสุลทั่วโลกมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่กงสุลประจำสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศจำนวน ๙๓ ราย ซึ่งทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของคนไทยในต่างประเทศ รับทราบนโยบาย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงาน รวมทั้งแนวปฏิบัติที่ดีในแต่ละประเทศ เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนางานกงสุลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของประชาชน

การสัมมนาเจ้าหน้าที่กงสุลโลกครั้งนี้เน้น ๒ ประเด็น ได้แก่ การมุ่งเสริมสร้างเครือข่ายเพื่อนกงสุลทั่วโลก และขับเคลื่อนการทำงานสู่ยุค e-Consular เพื่อประชาชน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มอบนโยบายหลัก ๓ ประการ ได้แก่ (๑) การดูแลทุกข์สุขคนไทยในต่างประเทศโดยร่วมกับเครือข่ายกงสุลต่างประเทศอื่น ๆ ในประเทศเจ้าบ้าน (๒) การพัฒนาและยกระดับหนังสือเดินทางไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลและคนไทยสามารถเดินทางไปประเทศต่าง ๆ ได้อย่างภาคภูมิ และ (๓) การให้เจ้าหน้าที่กงสุลนำแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศจากประเทศต่าง ๆ ที่ประจำการอยู่มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในประเทศไทย

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้มอบเข็มเชิดชูเกียรติกงสุลอาสาแก่ผู้แทนชุมชนไทยในต่างประเทศและคนไทยในประเทศที่มีบทบาทสนับสนุนงานด้านกงสุลและดูแลทุกข์สุขคนไทยรวม ๑๐ คน ในประเทศ ได้แก่ นางสาวเขมนิจ จามิกรณ์ นักแสดงและ Brand Ambassador หนังสือเดินทางไทย นายศรัณยู วินัยพานิช นักร้องและนักเดินทาง และนายดำฤทธิ์ วิริยะกุล บรรณาธิการข่าวภูมิภาค หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ซึ่งช่วยสนับสนุนภารกิจประชาสัมพันธ์งานกงสุล ส่วนกงสุลอาสาในต่างประเทศ ได้มอบแก่ผู้แทนสมาคมหรือคนไทยจาก ๗ ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน (มาเก๊า) สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

ในการพัฒนางานกงสุลสู่ยุค e-Consular เพื่อประชาชน กรมการกงสุลได้นำเทคโนโลยีมาเสริมการทำงานให้เข้มแข็งและให้ประชาชนได้รับความสะดวกจากการบริการที่รวดเร็วยิ่งขึ้น อาทิ การเริ่มใช้ระบบการเก็บสถิติงานกงสุล (Consular Index) ในต่างประเทศ การเปิดใช้การรับคำร้องของระบบ e-Visa ในสำนักงานนำร่องในต่างประเทศเพิ่มขึ้น รวมทั้ง การพัฒนาศูนย์รับคำร้องการตรวจลงตราในระดับภูมิภาค นอกจากนี้ ในการสัมมนาได้มีการหารือถึงแนวปฎิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองในราชการเพื่อช้วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งจะช่วยให้การทำงานด้านกงสุลคล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กงสุลต้องมุ่งเสริมสร้างเครือข่ายเพื่อนกงสุลทั่วทุกมุมโลก ทั้งคนต่างชาติที่เป็นมิตรกับไทย คนไทยจากภาคส่วนต่าง ๆ ในประเทศ และกลุ่มคนไทยในต่างประเทศ เพื่อเป็นแนวร่วมในการดูแลทุกข์สุขคนไทยให้ทั่วถึง การมอบเข็มกงสุลอาสาในครั้งนี้ จะเป็นการปักหมุดจุดเริ่มต้นในการวางรากฐานเครือข่ายคนกงสุลที่เข้มแข็งต่อไป

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฏาคม ๒๕๖๒ กระทรวงการต่างประเทศได้จัดการเสวนาในหัวข้อ “เหลียวหลังแลหน้า การทูตเพื่อประชาชน” เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และแลกเปลี่ยนมุมมองงานด้านงานกงสุลเพื่อคนไทย โดยมีวิทยากร ได้แก่ นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล นายจักร บุญ-หลง อดีตอธิบดีกรมการกงสุล นายมนชัย พัชนี อดีตกงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน และนางสาวเขมนิจ กงสุลอาสาและ Brand Ambassador หนังสือเดินทางไทย และนายณรงค์ บุญเสถียรวงศ์ รองอธิบดีกรมการกงสุล เป็นผู้ดำเนินรายการ

ข้อคิดเห็นจากการเสวนาที่สำคัญ คือ กงสุลต้องปรับทัศนคติในการทำงาน โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง มีจิตให้บริการมีความแม่นยำในกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รู้จักทำงานร่วมกับเครือข่ายเพื่อนกงสุลในการดูแลคนไทยและเอาใจใส่ในงานและการเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างทันท่วงที อาทิ สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความปลอดภัยของคนไทยในต่างประเทศ เป็นต้น

นอกจากการเสวนาดังกล่าว เจ้าหน้าที่กงสุลยังพบปะกับผู้แทนจากหน่วยงานที่มีภารกิจดูแลคนไทยในต่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ได้แก่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง องค์กรไม่แสวงหาผลประโยชน์ รวมทั้งจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานประจำประเทศไทย

ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ