รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธานจัดการประชุมร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ชาวเมียนมา ครั้งที่ ๒

ข่าวต่างประเทศ Tuesday May 10, 2022 13:57 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานเปิดการประชุม เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ชาวเมียนมา ครั้งที่ ๒ โดยมีนางพรพิมล กาญจนลักษณ์ ผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเรื่องเมียนมา ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต องค์การระหว่างประเทศ ภาคเอกชนไทย ตลอดจนองค์กรพัฒนาเอกชนของไทยและต่างประเทศที่มีเครือข่ายหรือการดำเนินการในไทยและเมียนมารวม ๒๓ องค์กร เข้าร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการของสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา และการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมา

รนรม./ รมว. กต. ย้ำถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมาซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากจากความขัดแย้งในประเทศ โดยในรอบปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนเมียนมาอย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางต่าง ๆ และได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาคเอกชนของไทยในการบริจาคสิ่งของให้ความช่วยเหลือ เช่น อาหารและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งได้มีการส่งมอบให้แก่สภากาชาดเมียนมาแล้วเมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๔๖๔ ทั้งนี้ ไทยได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกัมพูชาในฐานะประธานอาเซียนเพื่อหาวิธีการในการจัดส่งความช่วยเหลือมนุษยธรรมไปยังประชาชนเมียนมาอย่างมีประสิทธิภาพ และผลักดันแนวทางที่จะส่งเสริมการแก้ไขปัญหาทางการเมืองโดยสันติในเมียนมา

ผู้แทนองค์กรต่าง ๆ ที่เข้าร่วมประชุมได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการขององค์กร การประเมินสถานการณ์ ความช่วยเหลือที่เป็นที่ต้องการ และอุปสรรคในการดำเนินการและการเข้าถึงพื้นที่และประชาชน ที่เปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือ ตลอดจนได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับไทยในการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมาต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นพ้องกันถึงความสำคัญของการสร้างความมั่นใจและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง การไม่ใช้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นเครื่องมือทางการเมือง การแลกเปลี่ยนข้อมูล และการประสานงานและความร่วมมือของทุกฝ่าย เพื่อขยายขอบเขตการให้ความช่วยเหลือให้เข้าถึงพื้นที่และชาวเมียนมาอย่างครอบคลุมและทั่วถึงมากขึ้น ซึ่งรวมถึงบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา

ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ