กรุงเทพ--24 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2551 นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงผลการเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 19-21 มีนาคม 2551 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีโอกาสพบหารือกับบุคคลและเข้าร่วมกำหนดการที่สำคัญต่างๆ ดังนี้
1.1 การพบกับ ดร. Condoleezza Rice รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปรากฏว่า ทางสหรัฐฯ ชื่นชมการฟื้นฟูประชาธิปไตยของไทย รวมทั้งได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นต่างๆ อาทิ พม่า นอกจากนี้ รัฐมนตรีนพดลฯ ได้ขอให้สหรัฐฯ ในฐานะมิตรประเทศที่ใกล้ชิดกับซาอุดีอาระเบียช่วยสนับสนุนไทยในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย
1.2 การพบกับนาย Michael Muskasey รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งได้ขอบคุณทางการไทยในการจับกุมตัวนาย Viktor Bout ผู้ต้องหาคดีค้าอาวุธข้ามชาติ โอกาสนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ถือโอกาสเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเดินทางเยือนประเทศไทยด้วย
1.3 การพบกับนาย Stephen Hadley ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ขอให้สหรัฐฯ คืนสิทธิ GSP แก่สินค้าไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าอัญมณีที่ทำจากทอง โดยนาย Hadley แจ้งว่าจะนำไปพิจารณาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้ขอให้สหรัฐฯ พิจารณาปรับไทยจากประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เป็นประเทศที่ถูกจับตามอง (WL) นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือประเด็นต่างๆ ในภูมิภาค นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่การกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญนาย George W. Bush ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางเยือนไทยด้วย
1.4 การพบกับ ดร. Madeleine Albright อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือถึงประเด็นต่างๆ ในภูมิภาค ทั้งนี้ ดร. Albright แจ้งว่า จะส่งคณะนักธุรกิจสหรัฐฯ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อแสวงหาโอกาสทางการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยในช่วงต้นเดือนเมษายน ศกนี้
1.5 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองเฉลิมฉลอง175 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ โดยงานเลี้ยงดังกล่าวได้มีบุคคลสำคัญของฝ่ายสหรัฐฯ เข้าร่วม ได้แก่ นาย John Negroponte รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นาย Christopher Hill ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก วุฒิสมาชิก James Webb ตลอดจนผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และนักวิชาการ
1.6 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมจัดโดย US-ASEAN Business Council (USABC) โดยได้พบนักธุรกิจจากบริษัทชั้นนำ อาทิ Chevron, Ford, Abbott, Merck, AIG, Boeing โดยใช้โอกาสนี้ในการสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มนักธุรกิจในการเดินทางมาไทย ซึ่งกลุ่มนักธุรกิจเหล่านี้มีกำหนดจะเดินทางมาไทยในเดือนเมษายน 2551
1.7 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวสุนทรพจน์ที่ Center for Strategic and International Studies (CSIS) ในหัวข้อ Thai — US Relations in the Changing Political — Economic Landscape of Southeast Asia โดยได้ชี้แจงสถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในประเทศไทยในหมู่นักวิชาการสหรัฐฯ
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางเยือนนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในวันที่ 25 มีนาคม 2551 เพื่อเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลลาวเกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าระหว่างไทย-ลาว ซึ่งเป็นการสนับสนุนการดำเนินการของลาวที่ต้องการพัฒนาสู่การเป็น “แบตเตอรี่แห่งเอเชีย”
การลงนามบันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าระหว่างไทย-ลาว เป็นผลสืบเนื่องจากการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ลาวในช่วงการเยือน สปป.ลาวอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2551 ที่เห็นชอบในหลักการสนับสนุนให้ภาคเอกชนทำการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะก่อสร้างฝายกั้นน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าบนแม่น้ำโขงภายใต้ชื่อ “โครงการไฟฟ้าพลังน้ำฝายบ้านกุ่ม” ที่บริเวณอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี และแขวงจำปาสักของลาว โดยจะมอบหมายให้หน่วยงานภาครัฐของทั้งสองประเทศกำกับดูแลและประสานงานกับบริษัทที่ได้รับมอบหมายให้ทำการศึกษาแล้วรายงานผลให้รัฐบาลของทั้งสองฝ่ายพิจารณาตกลงต่อไป
3. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะร่วมคณะนายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มีนาคม 2551 ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันคือ การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งระหว่างสองประเทศ ตลอดจนยุทธศาสตร์ความร่วมมือเพื่อความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-เวียดนาม (Joint Strategy for Economic Partnership — JSEP) ความร่วมมือด้านวิชาการและการศึกษา ความร่วมมือด้านความมั่นคง และการลงนามความตกลงระหว่างไทย-เวียดนามว่าด้วยความร่วมมือระดับทวิภาคีเพื่อขจัดการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็ก และการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2551 นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงผลการเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 19-21 มีนาคม 2551 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีโอกาสพบหารือกับบุคคลและเข้าร่วมกำหนดการที่สำคัญต่างๆ ดังนี้
1.1 การพบกับ ดร. Condoleezza Rice รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปรากฏว่า ทางสหรัฐฯ ชื่นชมการฟื้นฟูประชาธิปไตยของไทย รวมทั้งได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นต่างๆ อาทิ พม่า นอกจากนี้ รัฐมนตรีนพดลฯ ได้ขอให้สหรัฐฯ ในฐานะมิตรประเทศที่ใกล้ชิดกับซาอุดีอาระเบียช่วยสนับสนุนไทยในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย
1.2 การพบกับนาย Michael Muskasey รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งได้ขอบคุณทางการไทยในการจับกุมตัวนาย Viktor Bout ผู้ต้องหาคดีค้าอาวุธข้ามชาติ โอกาสนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ถือโอกาสเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเดินทางเยือนประเทศไทยด้วย
1.3 การพบกับนาย Stephen Hadley ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ขอให้สหรัฐฯ คืนสิทธิ GSP แก่สินค้าไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าอัญมณีที่ทำจากทอง โดยนาย Hadley แจ้งว่าจะนำไปพิจารณาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้ขอให้สหรัฐฯ พิจารณาปรับไทยจากประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เป็นประเทศที่ถูกจับตามอง (WL) นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือประเด็นต่างๆ ในภูมิภาค นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่การกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญนาย George W. Bush ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางเยือนไทยด้วย
1.4 การพบกับ ดร. Madeleine Albright อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือถึงประเด็นต่างๆ ในภูมิภาค ทั้งนี้ ดร. Albright แจ้งว่า จะส่งคณะนักธุรกิจสหรัฐฯ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อแสวงหาโอกาสทางการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยในช่วงต้นเดือนเมษายน ศกนี้
1.5 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองเฉลิมฉลอง175 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ โดยงานเลี้ยงดังกล่าวได้มีบุคคลสำคัญของฝ่ายสหรัฐฯ เข้าร่วม ได้แก่ นาย John Negroponte รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นาย Christopher Hill ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก วุฒิสมาชิก James Webb ตลอดจนผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และนักวิชาการ
1.6 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมจัดโดย US-ASEAN Business Council (USABC) โดยได้พบนักธุรกิจจากบริษัทชั้นนำ อาทิ Chevron, Ford, Abbott, Merck, AIG, Boeing โดยใช้โอกาสนี้ในการสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มนักธุรกิจในการเดินทางมาไทย ซึ่งกลุ่มนักธุรกิจเหล่านี้มีกำหนดจะเดินทางมาไทยในเดือนเมษายน 2551
1.7 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวสุนทรพจน์ที่ Center for Strategic and International Studies (CSIS) ในหัวข้อ Thai — US Relations in the Changing Political — Economic Landscape of Southeast Asia โดยได้ชี้แจงสถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในประเทศไทยในหมู่นักวิชาการสหรัฐฯ
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางเยือนนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในวันที่ 25 มีนาคม 2551 เพื่อเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลลาวเกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าระหว่างไทย-ลาว ซึ่งเป็นการสนับสนุนการดำเนินการของลาวที่ต้องการพัฒนาสู่การเป็น “แบตเตอรี่แห่งเอเชีย”
การลงนามบันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าระหว่างไทย-ลาว เป็นผลสืบเนื่องจากการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ลาวในช่วงการเยือน สปป.ลาวอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2551 ที่เห็นชอบในหลักการสนับสนุนให้ภาคเอกชนทำการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะก่อสร้างฝายกั้นน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าบนแม่น้ำโขงภายใต้ชื่อ “โครงการไฟฟ้าพลังน้ำฝายบ้านกุ่ม” ที่บริเวณอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี และแขวงจำปาสักของลาว โดยจะมอบหมายให้หน่วยงานภาครัฐของทั้งสองประเทศกำกับดูแลและประสานงานกับบริษัทที่ได้รับมอบหมายให้ทำการศึกษาแล้วรายงานผลให้รัฐบาลของทั้งสองฝ่ายพิจารณาตกลงต่อไป
3. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะร่วมคณะนายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มีนาคม 2551 ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันคือ การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งระหว่างสองประเทศ ตลอดจนยุทธศาสตร์ความร่วมมือเพื่อความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-เวียดนาม (Joint Strategy for Economic Partnership — JSEP) ความร่วมมือด้านวิชาการและการศึกษา ความร่วมมือด้านความมั่นคง และการลงนามความตกลงระหว่างไทย-เวียดนามว่าด้วยความร่วมมือระดับทวิภาคีเพื่อขจัดการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็ก และการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-