ภาพรวมเศรษฐกิจ
- เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่อัตราร้อยละ 1.0 ปรับแก้ไขลดลงร้อยละ 0.3 จากที่คาดการณ์ไว้ครั้งก่อน โดยได้รับปัจจัยทางบวกจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่เพื่อการอยู่อาศัย การส่งออก การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล และการใช้จ่ายภาครัฐส่วนกลางที่เพิ่มขึ้น
เสถียรภาพเศรษฐกิจ
- ดัชนีทางการผลิตปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยที่อัตราร้อยละ 0.2 เช่นเดียวกับอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.1 ในเดือนสิงหาคม 2554
- ยอดการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคอุปโภคส่วนบุคคล (PCE) ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในขณะที่ยอดรายได้ส่วนบุคคลสุทธิ (DPI) ปรับลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.1 ในเดือนกรกฎาคม 2554
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 มาอยู่ที่ระดับการขยายตัวร้อยละ 3.8 ต่อปี ในขณะที่ดัชนีที่ไม่รวมสินค้าอาหารและน้ามัน (Core-CPI) ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 มาอยู่ที่ระดับ 1.8 ต่อปี
- อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม 2554 อย่ในระดับคงที่ที่ร้อยละ 9.1 โดยมีประชากรได้รับการจ้างงานที่ไม่ใช่เกษตรกรรม (Nonfarm payroll) เพิ่มขึ้น 331,000 คน
- สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าระหว่างประเทศลดลงเล็กน้อยในเดือนกรกฎาคมมาอยู่ที่ระดับ 51.6 ล้านเหรียญ สรอ.
- ในเดือนกันยายน 2554 ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโร เงินปอนด์ และเงินบาท โดยเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ร้อยละ 5.0 ในขณะที่มีค่าคงตัวเมื่อเทียบกับเงินเยน และเงินหยวน
ภาคการเงินและภาคการคลัง
- ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เสนอแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 447 พันล้านเหรียญ สรอ. โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อสนับสนุนการจ้างงานในสหรัฐฯ
- ประธานาธิบดีโอบามาเสนอปรับเพิ่มอัตราภาษีของผู้มีรายได้สูงเพื่อปรับลดปริมาณหนี้สาธารณะ
- มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะใช้มาตรการทางการเงินเพื่อปรับอัตราดอกเบี้ยระยะยาวในตลาดการเงินสหรัฐฯ ให้ต่ำลง ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน 2554
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ปรับลดตัวเลขการคาดการณ์อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2554 มาอยู่ที่ระดับการขยายตัวร้อยละ 1.2 — 1.5
ภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ปี 2554
ค่า GDP ของไตรมาสแรกปรับแก้ไขลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.0
- มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริงของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 ปรับแก้ไขลดลงร้อยละ 0.3 มาอยู่ที่อัตราการขยายตัวร้อยละ 1.0 ในการคาดการณ์ครั้งที่ 2 ในเดือนสิงหาคม 2554 ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการลงทุนในสินค้าคงคลังภาคเอกชนและปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการที่ขยายตัวในอัตราที่ต่ากว่าที่คาดการณ์ไว้เบื้องต้น อย่างไรก็ตาม การปรับลดลงดังกล่าวได้รับปัจจัยทางบวกบางส่วนจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่เพื่อการอยู่อาศัย และปริมาณการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ครั้งก่อนในเดือนกรกฎาคม
เครื่องชี้เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ
ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนสิงหาคม 2554
- ในเดือนสิงหาคม 2554 ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) ของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.2 จากเดือนก่อน หลังจากที่ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 ในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Manufacturing Production) ปรับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันที่ร้อยละ 0.5 ในเดือนสิงหาคมหลังจากที่ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ในเดือนก่อนหน้า
- อัตราการใช้กำลังการผลิต (Capacity Utilization) ของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 จากเดือนก่อนมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 77.4 ของกำลังการผลิตทั้งหมดของสหรัฐฯ ซึ่งต่ากว่าอัตราเฉลี่ยของการใช้กำลังการผลิตในระหว่างปี 2515-2553 อยู่ร้อยละ 3.0 (ค่าเฉลี่ยของปี 2515-2553 คิดเป็นร้อยละ 80.4)
- การใช้จ่ายของประชากรสหรัฐฯ ขยายตัวอย่างชัดเจน แม้ว่ารายได้ชะลอตัวลงเล็กน้อย
- ในเดือนกรกฎาคม 2554 ภาพรวมด้านรายได้ของประชากรสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยรายได้ส่วนบุคคลที่สามารถนาไปใช้ได้จริง (Real-DPI) ที่ปรับลดลงในอัตราร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ในขณะที่ภาพรวมด้านการใช้จ่ายของประชากรสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยยอดการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคอุปโภคที่แท้จริง (Real-PCE) ในเดือนกรกฎาคมปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ซึ่งนับเป็นการขยายตัวในอัตราที่สูงที่สุดของปี 2554
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ในเดือนสิงหาคม 2554 ซึ่งส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภคขยายตัวอยู่ที่ระดับร้อยละ 3.8 ต่อปี ในขณะที่ดัชนีราคาที่ไม่รวมสินค้าอาหารและน้ำมัน (Core-CPI) ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 จากเดือนก่อน มาอยู่ที่ระดับการขยายตัวร้อยละ 2.0 ต่อปี
อัตราการว่างงานอยู่ในระดับคงที่ที่ร้อยละ 9.1
- อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม 2554 อยู่ในระดับคงที่ที่ร้อยละ 9.1โดยสหรัฐฯ มีประชากรที่อยู่ในวัยทางาน (Labor force) ทั้งหมด 153.6 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 64.0 ของประชากรทั้งหมด ในขณะที่สหรัฐฯ มีจานวนประชากรได้รับจ้างงานเพิ่มขึ้นจำนวน 331,000 คน มาอยู่ที่ระดับ 139.6 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 58.2 ของประชากรทั้งหมด ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีประชากรว่างงานทั้งหมด 14.0 ล้านคน
- การจ้างงานที่ไม่ใช่เกษตรกรรม (Nonfarm payroll) ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยการจ้างงานของหน่วยงานรัฐบาลที่ยังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่องถูกทดแทนการขยายตัวของการจ้างงานด้านสาธารณสุข
- มลรัฐที่มีอัตราการว่างงานสูงสุดในสหรัฐฯ ได้แก่ รัฐเนวาดา (ร้อยละ 13.4) รัฐแคลิฟอร์เนีย (ร้อยละ 12.1) และรัฐมิชิแกน (ร้อยละ 11.2) ตามลำดับ
เครื่องชี้เสถียรภาพเศรษฐกิจต่างประเทศ
สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าลดลงมาอยู่ที่ระดับ 51.6 พันล้านเหรียญ สรอ. ในเดือนกรกฎาคม
- ในเดือนกรกฎาคม 2554 สหรัฐฯ ยังคงขาดดุลการค้าระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าปริมาณการขาดดุลได้ปรับลดลง 6.8 พันล้านเหรียญ สรอ. หรือร้อยละ 13.2 จากเดือนมิถุนายนที่ระดับ 51.6 พันล้านเหรียญ สรอ. มาอยู่ที่ระดับ 44.8 พันล้านเหรียญสรอ. สืบเนื่องจากมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการ (Export) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าและบริการ (Import) ปรับลดลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา
- มูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการปรับเพิ่มขึ้น 6.2 พันล้านเหรียญ สรอ. มาอยู่ที่ 178.0 พันล้านเหรียญ สรอ. ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าและบริการปรับลดลง 0.5 พันล้านเหรียญ สรอ. มาอยู่ที่ 222.8 พันล้านเหรียญ สรอ. ในเดือนกรกฎาคม
- ทั้งนี้ ประเทศคู่ค้า 3 ประเทศหลักที่สหรัฐฯ ประสบภาวะขาดดุลการค้าในด้านสินค้าและผลิตภัณฑ์ (ไม่รวมมูลค่าการบริการ) ได้แก่ จีน สหภาพยุโรป และเม็กซิโก ในเดือนกรกฎาคม 2554 มูลค่าการขาดดุลกับจีนปรับลดลง ในขณะที่มูลค่าการขาดดุลกับสหภาพยุโรปและเม็กซิโกปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า