รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2554

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2554

1. ธนชาตปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 55 เหลือร้อยละ 1.5

2. ราคาข้าวสหรัฐฯ พุ่งร้อยละ 3 จากปัญหาน้ำท่วมในไทย

3. คาดสหรัฐฯ ถูกหั่นเรตติ้งอีก

• บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาตปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจในปีหน้าลงจากร้อยละ 3.7 เป็นร้อยละ 1.5 เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัย จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าและมีผลกระทบเชิงห่วงโซ่อุปทานมากกว่าคาด

• สศค. วิเคราะห์ว่า เหตุการณ์อุทกภัยครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นบริเวณกว้างทั้งภาคการผลิตต่างๆ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม และภาคบริการสอดคล้องกับการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนลดลงเช่นกัน โดยเฉพาะในพืน้ ที่ที่ประสบภาวะน้ำท่วม ประกอบกับการถูกเลิกจ้างชั่วคราวของแรงงานที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วม ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ทั้งนี้ ในเบื้องต้น สศค.ได้ประเมินความเสียหายจากปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ โดยมีความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 15.7 หมื่นล้านบาท และจะส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยในปี 54 หดตัวลงร้อยละ 1.5 จากกรณีฐาน แต่อย่างไรก็ดีเมื่อช่วงวิกฤติดั่งกล่าวผ่านพ้นไปแล้ว คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากหมวดค้าปลีกค้าส่ง การซ่อมแซมถนนหนทางและการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยของประชาชน รวมไปถึงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐเพื่อชดเชยให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้นในปี 2555 ที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.5 (คาดการณ์ ณ ก.ย.54)

• ราคาสัญญาล่วงหน้าข้าวในตลาดชิคาโก (CBT) ในเดือน พ.ย.54 ของสหรัฐฯ อยู่ที่ราคา 16.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อซีดับเบิลยูทีพุ่งขึ้น อีก 50 เซนต์หรือร้อยละ 3 ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือนทั้งนี้เนื่องจากคาดการณ์ว่าปัญหาอุทกภัยในไทยอาจทำให้ไทยไม่สามารถส่งออกข้าวสารจำนวน 1.5-2.5 ล้านตันมายังสหรัฐฯ ได้

• สศค. วิเคราะห์ว่า ปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคกลางของไทยได้สร้างความเสียหายต่อภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวที่ถือเป็ นสินค้าส่งออกสำคัญของไทย โดยข้อมูลล่าสุดในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาสที่ 3 ปี 54 ดัชนีผลผลิตเกษตรกรรมหดตัวร้อยละ -1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และผลผลิตของข้าวเปลือกเจ้าหดตัวลงอย่างมากถึงร้อยละ -26.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างไรก็ตาม แนวโน้มของราคาข้าวที่ยังคงขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากราคาส่งออกข้าวขาว 5% จากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยในเดือน ส.ค.54 อยู่ที่ 608.7 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หรือสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 7.2 รวมทั้งราคาข้าวเปลือกตลาดล่วงหน้า CBOT ในเดือน ส.ค.54 อยู่ที่ 336.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หรือเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 5.2 จะเป็ นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมภาคเกษตรกรรมให้กลับมาขยายตัวได้ดีภายหลังจากการกลับมาผลิตอีกครั้ง

• ธนาคารแบงค์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริลลินช์ คาดว่าสหรัฐฯ น่าจะถูกสถาบันจัดอันดับเครดิตชั้นำของโลกปรับลดเครดิตลงจากระดับสูงสุด AAA อีกภายในสิ้นปีนี้ เพราะความวิตกเกี่ยวกับการขาดดุลงบประมาณ

• สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันสหรัฐฯกำลังเผชิญปัญหาการขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาลถึง 14.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และยอดหนี้สาธารณะคงค้างสูงถึง 14.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 93 ต่อ GDP อย่างไรก็ตาม การดำเนินการตามแผนลดการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยังคงเปราะบาง อาจส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลไม่เป็นไปตามเป้าหมาย นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังคงเผชิญกับปัญหาการว่างงานที่อยู่ในระดับสูงถึงกว่าร้อยละ 9 ของกำลังแรงงานรวม ทั้งนี้ สศค.คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 3 ของไทยในปี 54 และปี 55 จะขยายตัวร้อยละ 1.7 และ 2.0 ตามลำดับ (คาดการณ์ ณ ก.ย.54)

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th