Macro Morning Focus ประจำวันที่ 24 มกราคม 2555
Summary:
1. ธอส.คาดดอกเบี้ยปีนี้ปรับลดลงร้อยละ 0.5
2. แบงก์พาณิชย์ 11 แห่ง โชว์กำไรปี 2554 อู้ฟู้ 1.29 แสนล้าน
3. ราคาน้ำมันดิบกลับมาดีดตัวเพิ่มขี้นจากสถานการณ์ตึงเครียดในอิหร่าน
Highlight:
1. ธอส.คาดดอกเบี้ยปีนี้ปรับลดลงร้อยละ 0.5
- นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธกส. ประเมินว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. วันที่ 25 ม.ค. 55 คาดว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครึ่งปีแรก โดยคาดว่าจะปรับลดลงร้อยละ 0.25 ทั้งปีน่าจะลดลงร้อยละ 0.5 เพราะว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต้องใช้ดอกเบี้ยต่า
- สศค.วิเคราะห์ว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 54 ประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลงอย่างชัดเจน อาจจะส่งผลให้ กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เพื่อกระตุ้นการลงทุนภายในประเทศ และจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการรวมทั้งประชาชนที่จะขอกู้เงินเพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 3.25 ทั้งนี้ สศค.คาดว่าในปี 55 อัตราดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มที่จะอยู่ในช่วงคาดการณ์ 2.75-3.75 (ประมาณการ ณเดือน ธ.ค. 55) โดยในช่วงต้นปี 55 คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.อาจจะมีปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเหตุการณ์น้ำท่วม อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งหลังของปี 55 แรงกดดันจากเงินเฟ้อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจ จะส่งผลให้ กนง.กลับมาดาเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวมากขึ้น
2. แบงก์พาณิชย์ 11 แห่ง โชว์กำไรปี 2554 อู้ฟู้ 1.29 แสนล้าน
- ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยจำนวน 11 แห่ง แจ้งผลประกอบการปี 2554 ปรากฏว่า มียอดกำไรสุทธิ 129,552 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22,226 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำรเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.7 เทียบกับปี 2554 ที่มีกาไรสุทธิ 107,326 ล้านบาท ทั้งนี้พบว่าธนาคารพาณิชย์ที่มีกำไรมากที่สุดคือธนาคารไทยพาณิชย์ โดยมีกำไรสุทธิ 36,272.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.85 จากปี 2553 รองลงมาคือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย โดยมีกำไรสุทธิ 27,337 24,225 17,011 ล้านบาท ตามลาดับ
- สศค.วิเคราะห์ว่า กำไรที่เพิ่มขึ้นมากของธนาคารพาณิชย์เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน พ.ย 2554 สินเชื่อรวมขยายตัวกว่าร้อยละ 16.0 ประกอบกับการจัดการโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินให้สอดคล้องกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ทาให้มีอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net Interest Margin : NIM) อยู่ในระดับสูง ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดาเนินงานอื่นๆไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก ทั้งนี้คาดว่าในปี 2555 กำไรของธนาคารพาณิชย์ยังคงจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะมีประเด็นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น เพื่อนำมาใช้ชาระหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ
3. ราคาน้ำมันดิบกลับมาดีดตัวเพิ่มขี้นจากสถานการณ์ตึงเครียดในอิหร่าน
- น้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส และน้ามันดิบเบรนท์ พากันปรับตัวขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในอิหร่าน โดยสัญญาน้ำมันดิบที่ตลาด NYMEX ในนิวยอร์ก ดีดขึ้น 88 เซนต์ แตะ 99.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ แตะ 110.66 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่อียู ประกาศห้ามนาเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ด้วยความหวังที่จะกดดันให้หันหน้าสู่โต๊ะเจรจา ขณะที่อิหร่านขู่จะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ามันที่สาคัญของโลก
- สศค.วิเคราะห์ว่า วิเคราะห์ว่าราคาน้ำมันจะอยู่ในภาวะผันผวนจากหลายปัจจัย โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ามันดิบ NYMEX จะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อุปสงค์พลังงานในสหรัฐที่มีทิศทางปรับลดลง และความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในยุโรป ขณะเดียวกันสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอียู-อิหร่าน ก็ส่งผลกระทบต่อราคาน้ามันในอีกทิศทางหนึ่ง ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยย่อมได้รับผลกระทบจากความผันผวนดังกล่าว เนื่องจากพึ่งพาน้ามันในสัดส่วนสูงกว่าร้อยละ 10.2 ของ GDP และจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของภาคที่ใช้พลังงานขั้นสุดท้ายเป็นต้นทุนหมุนเวียนที่สำญๆ ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิต และสาขาขนส่ง ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในช่วงปลายปี 54 ทั้งนี้ สศค.คาดการณ์ (ณ ธ.ค.54) ว่าราคาน้ำมันดูใบปี 55 จะผันผวนอยู่ในช่วง 111.0-121.0 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th