ภาวะเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร พฤษภาคม 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 28, 2012 16:22 —กระทรวงการคลัง

บทสรุปผู้บริหาร

ภาพรวมเศรษฐกิจ
  • เศรษฐกิจ U.K. เข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเป็นทางการ (Technical Recession) หลังจากสำนักงานสถิติฯ ประกาศเศรษฐกิจ U.K. ในไตรมาสแรกของปี 2555 หดตัวมากกว่าที่คาดการณ์เดิมที่ -0.3%QoQ และเป็นการหดตัวติดต่อกันสองไตรมาส
  • สาเหตุหลักที่ส่งผลให้เศรษฐกิจ UK ในไตรมาสแรกหดตัวมากกว่าที่คาด มาจากการผลิตภาคก่อสร้างที่หดตัวมากถึง -4.8%QoQ เนื่องจากการปรับลดงบประมาณก่อสร้างของภาครัฐส่งผลให้การลงทุนรวมของ UK หดตัวเช่นกันที่ -0.3%QoQ ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนภาคเอกชนขยายตัวเพียง 0.1%QoQ จากปญหาการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง และการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากคู่ค้าในยูโรโซนที่ชะลอตัวและค่าเงินปอนด์แข็ง ส่งผลให้ขยายตัวได้แค่ 0.1%QoQ
  • อย่างไรก็ดี เครื่องชี้เศรษฐกิจในเดือนแรกของไตรมาส2 จากดัชนีผู้จัดการแผนกจัดซื้อ (PMI) บ่งชี้เศรษฐกิจน่าจะขยายตัวดีขึ้นเล็กน้อย จากดัชนีคำสั่งซื้อภาคบริการและภาคอุตสาหกรรมที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 50 จุดเล็กน้อย สะท้อนเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวอย่างเปราะบาง
เสถียรภาพเศรษฐกิจ
  • เสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราเงินเฟอล่าสุดในเดือน เม.ย 55 ปรับตัวลดลงมาอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ 3% เทียบกับเดือน มี.ค.55 ที่อยู่ที่ 3.5% ขณะที่อัตราการว่างงานล่าสุดในไตรมาสแรกของปี 2555 ซึ่งแม้จะยังคงอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 8.2 ของกำลังแรงงาน แต่เริ่มปรับตัวลดลงจาก ร้อยละ 8.4 ในไตรมาสก่อนหน้า
  • เสถียรภาพเศรษฐกิจต่างประเทศปรับตัวแย่ลง โดยดุลการค้าล่าสุดในไตรมาสแรกของปี 55 ขาดดุลเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ -7.9 พันล้านปอนด์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขาดดุล -7.1 พันล้านปอนด์ เนื่องจากขาดดุลการค้ากับคู่ค้าหลักในสหภาพยุโรป(ซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 58 ของการส่งออกทั้งหมดของสหราชอาณาจักร) มากขึ้น

สรุป สำนักงานที่ปรึกษาฯ ประเมินว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย(Recession) ในสหราชอาณาจักร ในช่วงที่เสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศปรับตัวดีขึ้นจากอัตราเงินเฟอที่ลดลง จะเอื้อให้ธนาคารกลางของสหราชอาณาจักรผ่อนคลายนโยบายการเงินโดยการเพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่ระบบ (Quantitative Easing: QE มากขึ้น ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในเดือนหน้า

อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
  • เศรษฐกิจ U.K. เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเป็นทางการ (Recession) โดยเศรษฐกิจไตรมาส1 ของปี 55 หดตัวเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกันที่ -0.3% (QoQ)

วันที่ 24 พฤษภาคม 2555 สำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักรประกาศตัวเลขของอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร (U.K) ในไตรมาสแรกของปี 2555 (ค.ศ.2012) หดตัวจากไตรมาสก่อนที่ -0.3% (QoQ) ซึ่งเป็นการหดตัวมากกว่าที่ประกาศข้อมูลเบื้องต้นในเดือนก่อน ที่คาดไว้ที่ -0.2%(QoQ) ส่งผลให้เศรษฐกิจ U.K.เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเป็นทางการ (Technical Recession) เนื่องจากเศรษฐกิจหดตัวสองไตรมาสติดต่อกัน นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีนี้หดตัวจากไตรมาสแรกของปีก่อนเช่นกันที่ -0.1% (YoY)

เมื่อพิจารณารายละเอียดของอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจในไตรมาสแรกพบว่า สาเหตุหลักในด้านการผลิต (Supply Side) ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจ U.K. ในไตรมาสแรกหดตัว มาจากการผลิตภาคก่อสร้าง (Construction) ที่หดตัวถึง -4.8%(QoQ) เนื่องจากการปรับลดงบประมาณก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและที่พักอาศัยของภาครัฐ ประกอบกับการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Total Industrial Production) ที่หดตัวต่อเนื่องที่-0.4%(QoQ) ทั้งนี้ แม้ว่าภาคบริการ (Services) จะกลับมาขยายตัวเล็กน้อยที่ 0.1%(QoQ) แต่บริการธุรกิจและการเงิน(Business Services&Finance) ยังคงหดตัว

สำหรับในด้านการใช้จ่าย (Demand Side) พบว่าการลงทุนรวม (Total Investment) ในไตรมาสแรกของปียังคงหดตัวเนื่องที่-0.3%(QoQ) จากการลดการลงทุนของภาครัฐ ประกอบกับการบริโภคภาคเอกชน (Private Consumption) ยังขยายตัวได้เปราะบางที่ 0.1%(QoQ) และการส่งออกสินค้าและบริการ(Real Export) ที่ขยายตัวได้น้อยกว่าที่คาดเหลือเพียง 0.1%(QoQ) เนื่องจากการชะลอการส่งออกของUK ไปยังคู่ค้าหลักในยูโรโซนที่กำลังประสบกับวิกฤติหนี้ฯ รุนแรง

เครื่องชี้เศรษฐกิจไตรมาส 2/2555
  • เครื่องชี้เศรษฐกิจในเดือนเม.ย.จากดัชนีPMI ชี้เศรษฐกิจ UK ขยายตัวอย่างเปราะบาง โดยมีสาเหตุหลักจากการใช้จ่ายในประเทศที่อ่อนแอ ขณะที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมลดลงมาก

ดัชนีผู้จัดการแผนกจัดซื้อภาคบริการ (Services Purchasing Managers' Index: PMI) ในเดือนเมษายนอยู่ที่ 53.3 จุด ซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 50 จุด (ซึ่งเป็นระดับที่ไม่มีการขยายตัว) สะท้อนว่า การผลิตภาคบริการในเดือนแรกของไตรมาส 2 ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ดัชนี Services PMI ในเดือนเมษายนยังคงปรับตัวลดลงต่ำกว่าดัชนีในเดือนมีนาคมที่อยู่ที่ 55.3 จุด เล็กน้อย สะท้อนการผลิตภาคบริการที่ขยายตัวอย่างเปราะบาง โดยมีสาเหตุหลักจากการใช้จ่ายในประเทศที่อ่อนแอ

ส่วนดัชนีผู้จัดการแผนกจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (Manufacturing Purchasing Managers' Index) ซึ่งเป็นเครื่องชี้เศรษฐกิจการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหราชอาณาจักรในเดือนเมษายน2555 ยังคงอยู่สูงกว่า 50 จุดเล็กน้อยที่ 50.5 จุด สะท้อนการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ยังคงขยายตัวได้เล็กน้อย แต่ดัชนี Manufacturing PMI ในเดือนเม.ย.ที่ปรับตัวลดลงกว่าดัชนีในเดือนมีนาคม (ที่อยู่ที่ 51.9จุด) ค่อนข้างมาก สะท้อนการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอมาก โดยมีสาเหตุหลักมาจากการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่เน้นการส่งออกที่หดตัวมากเนื่องจากคู่ค้าสำคัญในเศรษฐกิจยุโรปกำลังประสบกับปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่รุนแรง

เครื่องชี้เสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศ
  • อัตราเงินเฟอในเดือนเม.ย.55 ปรับลดลงมาอยู่ต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ร้อยละ 3 ต่อปีขณะที่อัตราว่างงานล่าสุดในไตรมาส1 ปี 55 ลดลงมาอยู่ที่ 8.2% ของกำลังแรงงาน

อัตราเงินเฟอล่าสุดที่คำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index: CPI) ในเดือนเมษายน 2555 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 3% (YoY) ซึ่งเป็นระดับอัตราเงินเฟอที่ต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี และเป็นการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟอในเดือนมีนาคมที่อยู่ที่ 3.5% (YoY) สำหรับอัตราเงินเฟอที่คำนวณจากดัชนีราคาสินค้าขายปลีก (Retail Price Index) ในเดือนเมษายน 2555 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อยมาอยู่ที่ 3.5%(YoY) เทียบกับเดือนมีนาคม 2555 ที่อยู่ที่ 3.6%(YoY)

สาเหตุหลักที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟอปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วมาจากการขยายตัวที่ชะลอตัวลงของราคาค่าโดยสารทางอากาศที่ขยายตัวเพียง 7.4% ในเดือนเมษายน 2555 เทียบกับที่ขยายตัวถึง 29% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากปจจัยพิเศษที่เทศกาล Easter ในปีก่อนอยู่ในช่วงปลายเดือนเมษายน ส่งผลให้การปรับขึ้นราคาค่าโดยสารทางอากาศในช่วงก่อนวันหยุด Easter ในปีก่อนได้สะท้อนอยู่ในราคาค่าโดยสารที่เพิ่มขึ้นมากในเดือนเมษายนปีก่อน ขดณะที่วันหยุดเทศการ Easter ในปีนี้ ได้อยู่ในช่วงต้นเดือนเมษายน ส่งผลให้การปรับขึ้นราคาค่าโดยสารทางอากาศในช่วงวันหยุด Easter ในปี 2555 นี้ ได้ถูกสะท้อนแล้วในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ ปจจัยสำคัญที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟอในเดือนเมษายน 2555 ขยายตัวชะลอลงมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอลงส่งผลให้ราคาสินค้าผู้บริโภคที่สำคัญ เช่น ราคาเสื้อผ้าและราคาอาหารได้ปรับตัวลดลง -0.1% ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

สำนักงานที่ปรึกษาฯ ประเมินว่าการที่อัตราเงินเฟอทีปรับตัวลดลงเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรที่กำลังประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) จะเอื้อให้ธนาคารกลางดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2555

ในด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศที่วัดจากอัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) ในไตรมาสแรกของปี 2555 (มกราคม 2555- มีนาคม 2555) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ร้อยละ8.2 ของกำลังแรงงาน ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าทีอยู่ที่ร้อยละ 8.4 ของกำลังแรงงาน โดยมีจำนวนผู้ว่างงานในไตรมาส 1 ของปี 2555 จำนวนรวมทั้งสิ้น 2.63 ล้านคน ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 45,000 คน นอกจากนี้ จำนวนผู้ว่างงานในกลุ่มแรงงานที่เป็นวัยรุ่นในช่วง 16-24 ปี(Youth Unemployment) ในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2555 ได้ปรับลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 17,000 คน มาอยู่ที่ 1.02 ล้านคน ส่งผลให้ อัตราการว่างงานของแรงงานวัยรุ่นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 21.9 ของกำลังแรงงาน เทียบกับไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ 22.2 ของกำลังแรงงาน

อัตราการว่างงานที่ลดลงสอดคล้องกับอัตราการจ้างงาน (Employment Rate) ในช่วง ไตรมาสแรกของปี 2555 ที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 70.5 ของกำลังแรงงาน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 70.3 ของกำลังแรงงาน โดยมีจำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 105,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานชั่วคราว (Part-time Worker)

สำนักงานที่ปรึกษาฯ ประเมินว่า แม้ว่าอัตราการว่างงานล่าสุดจะลดลงและอัตราการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น แต่สภาพการจ้างงานในสหราชอาณาจักรยังคงเปราะบาง โดยการจ้างงานที่เพิ่มส่วนใหญ่เป็นการจ้างงานชั่วคราว ประกอบกับ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ใช้วิธีการตรึงค่าจ้างแรงงานแทนการปลดพนังงานออก ดังเห็นได้จาก ค่าจ้าง(รวมโบนัส) ในเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.6% ต่อปี

เครื่องชี้เสถียรภาพเศรษฐกิจต่างประเทศ
  • เสถียรภาพต่างประเทศในไตรมาสแรกปี 55 ปรับตัวแย่ลง โดยขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากขาดดุลการค้ากับประเทศEU มากขึ้น แม้ว่าจะขาดดุลการค้ากับ Non-EU ลดลง

ดุลการค้าของสินค้าและบริการ (Trade in Goods and Services) ล่าสุดในไตรมาสแรกของปี 2555 ขาดดุลเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ -7.9 พันล้านปอนด์ เทียบกับที่ขาดดุล -7.1 พันล้านปอนด์ในไตรมาส 4 ของปี 2554 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการขาดดุลการค้าของสินค้า (Trade in Goods) ในไตรมาสแรกของปี 2555 ที่ขาดดุลเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ -25.1 พันล้านปอนด์ เทียบกับไตรมาส 4 ของปีก่อนที่ขาดดุล -24.2 พันล้านปอนด์

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณารายละเอียดของดุลการค้าของสินค้าที่ขาดดุลเพิ่มขึ้นพบว่ามาจากการขาดดุลการค้าสินค้ากับประเทศในสหภาพยุโรป (EU) ที่ขาดดุลในไตรมาสแรกของปี 2555 ที่ -12.3 พันล้านปอนด์ ขาดดุลเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขาดดุล -11.1 พันล้านปอนด์ ขณะที่ดุลการค้าสินค้ากับประเทศนอกสหภาพยุโรป (Non EU) ในไตรมาส 1 ของปี 2555อยู่ที่ -12.7 พันล้านปอนด์ ขาดดุลลดลงจากไตรมาสก่อนที่ขาดดุล -13.1 พันล้านปอนด์

สาเหตุหลักที่ทำให้สหราชอาณาจักรขาดดุลการค้าในไตรมาสแรกของปี 2555 มากขึ้น มาจากมูลค่าการส่งออกในไตรมาสแรกที่หดตัวจากไตรมาสก่อนหน้าที่ -0.3%(QoQ) โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าไปยังสหภาพยุโรปซึ่งกำลังประสบปญหาเศรษฐกิจหดตัวจากวิกฤติหนี้สาธารณะในยูโรโซนได้หดตัวถึง -1.7% (QoQ) แต่ได้รับการชดเชยด้วยมูลค่าการส่งออกสินค้าไปยังนอกสหภาพยุโรปในไตรมาสแรกที่ขยายตัว 2% (%QoQ) นอกจากนี้ มูลค่าการนำเข้าของสหราชอาณาจักรในไตรมาสแรกขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 0.3%(QoQ)

สำนักงานที่ปรึกษาฯ ประเมินว่าดุลการค้าของสหราชอาณาจักรในระยะต่อไปน่าจะมีโอกาสขาดดุลเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจคู่ค้าหลักในยุโรปที่มีสัดส่วนการส่งออกถึงร้อยละ 58 ของการส่งออกทั้งหมดของสหราชอาณาจักร กำลังประสบปญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงขึ้น ประกอบกับ ค่าเงินปอนด์ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในสถานะ Safe Haven Currencies ในช่วงวิกฤติยูโรโซน จะยิ่งส่งผลทางลบต่อการส่งออกของสหราชอาณาจักร

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ