รายงานภาวะเศรษฐกิจรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 11 - 14 ธันวาคม 2555

• นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือน พ.ย.55 มีจำนวนทั้งสิ้น 2.1 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 60.6

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

• สภาพคล่องส่วนเกินของธนาคารพาณิชย์ในเดือน ต.ค. 55 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 2.37 ล้านล้านบาท
• GDP ญี่ปุ่น ไตรมาส 3 ปี 55 (ตัวเลขปรับปรุง) ขยายตัวร้อยละ 0.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ หดตัวร้อยละ -0.9

จากไตรมาสก่อนหน้า

• ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหภาพยุโรป เดือน ต.ค. 55 หดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -3.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
• อัตราว่างงานสหรัฐฯ เดือน พ.ย. 55 ปรับลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 7.7 ของกำลังแรงงานรวม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ภาคอุตสาหกรรมจีน (จัดทำโดย HSBC) เดือน ธ.ค. 55 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 50.9 จุด
• วันที่ 11 ธ.ค. 55 ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเดือน ธ.ค. 55 ไว้ที่ร้อยละ 5.75
• วันที่ 13 ธ.ค. 55 ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศคงmอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.75
• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมอินเดีย เดือน ต.ค. 55 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 16 เดือนที่รั้อยละ 8.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน

Indicators Forecast Previous Nov : TISI (Index) 95.0 93.0

คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 100 สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่อยู่ในระดับที่ไม่ดี โดยเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่อยู่ในระดับที่สูงจากราคาปัจจัยการผลิต อาทิ ค่าไฟฟ้า ค่าจ้างแรงงาน เป็นต้น ตลอดจนปัญหาการขาดแคลนแรงงานในบางอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี คาดว่าค่าดัชนีฯ มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปัจจัยการเมืองภายในประเทศที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น

• นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือน พ.ย.55 มีจำนวนทั้งสิ้น 2.1 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 60.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวร้อยละ 6.8 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังหักผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) โดยเป็นการขยายตัวได้ดีในทุกกลุ่มประเทศ เช่น เอเชียตะวันออก อาเซียนและยุโรป ขยายตัวร้อยละ 208.3 43.6 และ 12.8 ตามลำดับ ส่งผลทำให้ 11 เดือนแรกของปี 55 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วทั้งสิ้น 19.8 ล้านคน ขยายตัวที่ร้อยละ 13.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
• สภาพคล่องส่วนเกินของธนาคารพาณิชย์ในเดือน ต.ค. 55 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 2.37 ล้านล้านบาท จากเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ที่เร่งขึ้นถึงร้อยละ 1.2 จากเดือนก่อนหน้า (หลังขจัดปัจจัยทางฤดูกาลแล้ว) ขณะที่สินเชื่อขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ชะลอกว่าเงินฝาก โดยอยู่ที่ร้อยละ 0.7 จากเดือนก่อนหน้า (หลังขจัดปัจจัยทางฤดูกาลแล้ว) ทั้งนี้ เงินฝากที่คาดว่าจะขยายตัวดีต่อเนื่อง จากการแข่งขันเพื่อระดมทุนของธนาคารพาณิชย์ที่ยังคงจะเข้มข้นต่อเนื่อง ขณะที่อุปสงค์ในประเทศที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น จะส่งผลให้สินเชื่อขยายตัวได้ต่อเนื่อง ส่งผลให้คาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 55 สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์จะอยู่ในระดับใกล้เคียงปัจจุบัน หรือาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก อาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์จากนอกประเทศ รวมถึงการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลต่อการขยายตัวของสินเชื่อ และสถานะของสภาพคล่องได้ในระยะต่อไป

• ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ย. 55 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 95.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 93.0 แต่ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 100 สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่อยู่ในระดับที่ไม่ดี โดยเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่อยู่ในระดับที่สูงจากราคาปัจจัยการผลิต อาทิ ค่าไฟฟ้า ค่าจ้างแรงงาน เป็นต้น ตลอดจนปัญหาการขาดแคลนแรงงานในบางอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี คาดว่าค่าดัชนีฯ มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปัจจัยการเมืองภายในประเทศที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น

Global Economic Indicators: This Week

• การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ เดือน พ.ย. 55 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 146,000 ตำแหน่ง โดยภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 147,000 ตำแหน่ง ส่วนใหญ่เป็นการจ้างงานภาคบริการ สะท้อนความแข้งแกร่งของภาคบริการสหรัฐฯทำให้อัตราว่างงาน เดือน พ.ย. 55 ปรับลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 7.7 ของกำลังแรงงานรวม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี จากร้อยละ 7.9 ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนการฟื้นตัวของภาคการจ้างงานสหรัฐฯ อย่างค่อยเป็นค่อยไป ดุลการค้าเดือน ต.ค. 55 ขาดดุลสูงขึ้นที่ -65.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากมูลค่าการส่งออกที่ชะลอตัว ในขณะที่การนำเข้าเร่งขึ้นตามอุปสงคืที่สูงขึ้น จากเทศกาลวันหยุดขอบคุณพระเจ้าในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ยอดค้าปลีก เดือน พ.ย. 55 ขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 0.3 จากเดือนก่อนหน้า (หลังขจัดปัจจัยทางฤดูกาลแล้ว) สะท้อนอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง

• อัตราเงินเฟ้อ เดือน พ.ย. 55 ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 2.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 เป็นสำคัญ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ย. 55 ขยายตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 10.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน สอดคล้องกับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ภาคอุตสาหกรรม (จัดทำโดย HSBC) เดือน ธ.ค. 55 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 50.9 จุด สะท้อนภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวต่อเนื่อง ยอดค้าปลีก เดือน พ.ย. 55 ขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 14.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งขณะที่อุปสงค์จากนอกประเทศชะลอลงชัดเจนสะท้อนจากมูลค่าการส่งออก เดือน พ.ย. 55 ที่ขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่มูลค่าการนำเข้า เดือน พ.ย. 55 หดตัวร้อยละ -0.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้จีนเกินดุลการค้า เดือน พ.ย. 55 เกินดุลที่ 19.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ต.ค. 55 หดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -3.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากการผลิตในหมวดสินค้าทุน และสินค้าคงทนเพื่อการอุปโภคบริโภคที่ลดลงเป็นสำคัญ สะท้อนการถดถอยของภาคอุตสาหกรรมในยูโรโซน

• GDP ไตรมาส 3 ปี 55 (ตัวเลขปรับปรุง) ขยายตัวร้อยละ 0.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ หดตัวร้อยละ -0.9 จากไตรมาสก่อนหน้า (ขจัดปัจจัยทางฤดูกาลแล้ว) ส่วนหนึ่งจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งมีสัดส่วนรวมสูงถึงร้อยละ 78.6 ของ GDP ชะลอตัวลงประกอบกับภาคการส่งออกที่ปรับตัวลดลงชัดเจน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ย. 55 ปรับลดจากระดับ 39.7 ในเดือนก่อน มาอยู่ที่ระดับ 39.4 ตามเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ยังคงซบเซาต่อเนื่อง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ตัวเลขปรับปรุง) เดือน ต.ค. 55 ขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.6 จากเดือนก่อน จากการที่ผู้ประกอบการปรับลดระดับการผลิตลง ตามเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญหลายประเทศชะลอตัวลง

• วันที่ 11 ธ.ค. 55 ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเดือน ธ.ค. 55 ไว้ที่ร้อยละ 5.75 ตืดต่อกันเป็นเดือนที่ 10

• มูลค่าการส่งออก เดือน ต.ค. 55 กลับมาหดตัวที่ร้อยละ -3.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการส่งออกไปญี่ปุ่นและจีน (คู่ค้าสองอันดับแรก) ที่หดตัวในระดับสูง ขณะที่มูลค่าการนำเข้า เดือน ต.ค. 55 ขยายตัวชะลอลงร้อยละ 5.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมและน้ำมันดิบที่หดตัว ทำให้ดุลการค้า เดือน ต.ค. 55 เกินดุลที่ 9.6 พันล้านริงกิต ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ต.ค. 55 ที่ขยายตัวร้อยละ 5.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการผลิตในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่เร่งขึ้น

• มูลค่าการส่งออก เดือน ต.ค. 55 ขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 6.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการส่งออกไปจีนและสหรัฐฯ ที่หดตัวลง ขณะที่ธนาคารกลางคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 3.50

• อัตราการว่างงาน ไตรมาส 3 ปี 55 ค่อนข้างทรงตัวจากไตรมาสก่อนที่ร้อยละ 1.9 ของกำลังแรงงานรวม ยอดค้าปลีก เดือน ต.ค. 55 กลับมาหดตัวร้อยละ -1.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากยอดขายรถยนต์ที่หดตัว

• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ต.ค. 55 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 16 เดือนที่รั้อยละ 8.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัยฐานต่ำ และการผลิตในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่ขยายตัวเร่งขึ้นมูลค่าการส่งออก เดือน พ.ย. 55 หดตัวร้อยละ -4.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามการชะลอลงของเศรษฐกิจคู่ค้า โดยเฉพาะเศรษฐกิจยูโรโซน มูลค่าการนำเข้า เดือน พ.ย. 55 ขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 6.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน

• อัตราการว่างงาน เดือน พ.ย. 55 ทรงตัวอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 2.8 ของกำลังแรงงานรวม โดยจำนวนผู้ว่างงานลดลง 19,000 คน สะท้อนอุปสงค์ในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง วันที่ 13 ธ.ค. 55 ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.75 จากความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง ขณะที่แรงกดดันจากเงินเฟ้อไม่สูงมากนัก

• มูลค่าการส่งออก เดือน ต.ค. 55 หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ที่ร้อยละ -9.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการส่งออกไปยังคู่ค้าหลัก อาทิ จีน และอาเซียนที่หดตัว ขณะที่มูลค่าการนำเข้า เดือน ต.ค. 55 ขยายตัวเร่งขึ้นร้อยละ 7.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน

• มูลค่าการส่งออก เดือน พ.ย. 55 ขยายตัวเร่งขึ้นร้อยละ 0.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการส่งออกไปยังจีนที่ขยายตัวเร่งขึ้นขณะที่มูลค่าการนำเข้า เดือน พ.ย. 55 ขยายตัวเร่งขึ้นร้อยละ 0.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน

• ดัชนี SET ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ใกล้ระดับ 1,360 จุด โดย ณ วันที่ 13 ธ.ค. 55 ดัชนีฯ ปิดที่ระดับ 1,353.81 จุด จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติเป็นสำคัญ เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวได้ดีเมื่อเทียบกับประเทศอื่น โดยนักลงทุนรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 11-13 ธ.ค. 55 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 7,429.99 ล้านบาท ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลค่อนข้างทรงตัว โดยผลตอบแทนพันธบัตรอายุมากกว่า 10 ปีปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ นักลงทุนกำลังรอผล FOMC ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะมีมาตรการใดเพื่อมาทดแทนมาตรการ Operation Twist ที่จะหมดลงในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ โดยภายหลังการประชุมที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตกรการ QE4 ทดแทน Operation Twist ทำให้นักลงทุนบางส่วนขายเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 11 - 13 ธ.ค. 55 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,597 ล้านบาท
• ค่าเงินบาทค่อนข้างทรงตัว โดย ณ วันที่ 13 ธ.ค. 55 ปิดที่ระดับ 30.63 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.07 จากสัปดาห์ก่อนหน้า ในขณะที่ค่าเงินสกุลอื่นๆ โดยเฉพาะค่าเงินเยน ยูโร ริงกิตมาเลเซีย ดอลลาร์สิงคโปร์ และหยวนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ค่าเงินบาทที่ค่อนข้างทรงตัว ประกอบกับทิศทางค่าเงินสกุลอื่นค่อนข้างผสม โดยมีบางส่วนแข็งค่าขึ้นมากกว่าค่าเงินบาท และบางส่วนอ่อนค่าลงมากกว่าค่าเงินบาท ผลักดันให้ค่าเงินบาทตามดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ในสัปดาห์นี้แข็งค่าขึ้นเพียงเล็กน้อยร้อยละ 0.29 จากสัปดาห์ก่อนหน้า
• ราคาทองคำปรับลดลง โดยราคาทองคำ ณ วันที่ 13 ธ.ค. 55 ปิดที่ 1,696.69 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ลดลงจากต้นสัปดาห์ที่ปิดที่ 1,709.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3253 : www.fpo.go.th

---