รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 12 พฤศจิกายน 2556

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 12, 2013 11:39 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 12 พฤศจิกายน 2556

Summary:

1. ธปท. หวั่นการเมืองทำจีดีพีปีนี้พลาดเป้าที่ร้อยละ 3.7

2. ธนาคารทิสโก้คาดส่งออกปีหน้าโตร้อยละ 8

3. ผลกระทบจากไต้ฝุ่น 'ไห่เยี่ยน' ต่อเศรษฐกิจฟิลิปปินส์

Highlight:

1. ธปท. หวั่นการเมืองทำจีดีพีปีนี้พลาดเป้าที่ร้อยละ 3.7
  • นางรุ่ง โปษยานนท์ มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐมหภาค ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่าจีดีพีไทยอาจขยายตัวไม่ตามเป้าที่ร้อยละ 3.7 เพราะการเมืองจะกระทบการท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปี อีกทั้งการส่งออกของไทยมีอุปสรรคในเรื่องการผลิตสินค้าที่ไม่รับความตัองการของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยหากการเมืองยังยืดเยื้อถึงปีหน้า จะทำให้การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวลงไปด้วย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 56 จะเป็นไปตามเป้าหรือไม่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ประกอบด้วย 1.) การลงทุนภาครัฐที่ต้องเบิกจ่ายได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณในส่วนโครงการบริหารจัดการน้ำและโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้าน 2.) มูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งปีจะต้องขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 1.8 และ 3.) ปัจจัยด้านการเมือง ต้องไม่มีความรุนแรงและยืดเยื้อ อย่างไรก็ดี เชื่อว่าภาคเอกชนของไทยยังแข็งแกร่ง สะท้อนจากเสถียรภาพทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่อยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งอัตราการว่างงานและอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งคาดว่าจะทำให้สามารถรับมือกับสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นและเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้ ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 56 จะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 3.7 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.5 - 4.0 (คาดการณ์ ณ กันยายน 56)
2. ธนาคารทิสโก้คาดส่งออกปีหน้าโตร้อยละ 8.0
  • หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ ธนาคารทิสโก้ เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้น โดยทิสโก้เชื่อว่าจะเติบโตร้อยละ 8.0 สูงกว่าปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโต ร้อยละ 2.0 ทั้งนี้การเติบโตของการส่งออกเฉลี่ย 5 ปีก่อนหน้านี้ ไม่นับช่วงวิกฤติซับไพร์มปี 51 ขยายตัวร้อยละ 13.0 ต่อปีมาตลอด แต่เติบโตลดลงในช่วงปี 55 และปีนี้ โดยเฉพาะปี 55 ที่หดตัวร้อยละ -3.0 แต่ปีหน้าเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัว
  • สศค. วิเคราะห์ว่า สถานการณ์การส่งออกในเดือน ก.ย. 56 มีมูลค่าอยู่ที่ 19.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นการหดตัวร้อยละ -7.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่ำสุดในรอบ 13 เดือน โดยเป็นผลมาจากราคาและปริมาณที่หดตัวเร่งขึ้นร้อยละ -0.9 และ -6.2 ตามลำดับ ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 56 มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 172,139.76 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 0.05 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ สศค.คาดว่ามูลค่าส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐในปี 57 จะขยายตัวร้อยละ 7.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ร้อยละ 6.5 - 8.5) เพิ่มขึ้นจากปี 56 ที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.8 (โดยมีช่วงคาดการณ์ร้อยละ 1.3 - 2.3) เนื่องจากคาดว่าการส่งออกสินค้าจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องตามการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้นโดยได้รับอานิสงส์จากโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะยังอยู่ในช่วงของการปรับตัวต่อเสถียรภาพในระบบการเงินก็ตาม
3. ผลกระทบจากไต้ฝุ่น 'ไห่เยี่ยน' ต่อเศรษฐกิจฟิลิปปินส์
  • ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่พัดผ่านฟิลิปปินส์อาจทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเกินหลักหมื่นคนโดยเฉพาะในจังหวัดเลเตจังหวัดเดียว ส่วนบนเกาะซามาร์ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 300 คน และที่เมืองเบเซอร์สูญหายอีกสองพันคน โดยเมืองนี้เป็นจุดแรกๆ ที่ไต้ฝุ่นพัดขึ้นฝั่งจากมหาสมุทรแปซิฟิคด้วยความเร็วลมสูงสุด 315 กม.ต่อ ชม. โดยเบื้องต้นจากรายงานของ Kinetic Analysis Corp ผลกระทบทางเศรษฐกิจของไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนอาจถึง 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐมีการประกันไว้ ทั้งนี้ ชาวฟิลิปปินส์ประมาณ 9.7 ล้านคนหรือร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมดได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นนี้ โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์วางแผนว่าจะใช้เงินช่วยเหลือ 824 พันล้านเหรียญเปโซ หรือ 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยธนาคารพัฒนาเอเซียหรือ ADB ได้ประเมินว่า ฟิลิปปินส์มีความเสียหายจากไต้ฝุ่นและแผ่นดินไหวโดยเฉลี่ย 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี สูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง แต่ในช่วงที่ผ่านมาฟิลิปปินส์ก็มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเกินร้อยละ 7 ถึงสี่ไตรมาสติดต่อกัน โดยปีนี้ฟิลิปปินส์มีอัตราการเจริญเติบโตสูงสุดในอาเซียนที่ร้อยละ 7.7 และ 7.5 ในไตรมาสที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ซึ่งธนาคารโลกก็เพิ่งจะประกาศการคาดการณ์เศรษฐกิจเมื่อ ต.ค. ที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์จะขยายตัวที่ประมาณร้อยละ 7 ในปี 56 นี้ หากครั้งนี้ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่เป็นไต้ฝุ่นที่มีกำลังความรุนแรงที่สุดอันดับต้นๆ ของโลกได้สร้างความเสียหายทั้งชีวิตผู้คนและทรัพย์สินเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ที่กำลังเจริญเติบโตดีหยุดชะงักลงจากความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า ฟิลิปปินส์อาจต้องเผชิญกับพายุอีกครั้ง ซึ่งอาจจะซ้ำเติมสิ่งที่ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนได้กระทำไว้ในไม่กี่วันที่ผ่านมาให้ย่ำแย่ลงอีก

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ