รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2557

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 10, 2014 11:40 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2557

Summary:

1.พาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกตลาดอาเซียนปี 58 ขยายตัว 5.9

2.กรมสรรพสามิตเอาแน่รีดภาษีชาเขียว จ่อเริ่มต้นที่ร้อยละ 10-20 ชี้ช่องให้เปลี่ยนส่วนผสมใหม่

3.ส่งออกจีนเดือน ต.ค. 57 พุ่งสูงกว่าคาด

1. พาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกตลาดอาเซียนปี 58 ขยายตัว 5.9
  • นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมจัดทำเป้าหมายส่งออก ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์และกิจกรรม ตามนโยบายรมว.พาณิชย์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ในการขับเคลื่อนการส่งออกในปี 58 ว่าจากผลการหารือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน กรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกตลาดภูมิภาคอาเซียนขยายตัวร้อยละ 5.9 หรือ มีมูลค่า 63,554 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ในช่วงที่ผ่านมาการส่งออกของไทยไปในประเทศอาเซียนมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากข้อมูลเชิงประจักษ์ พบว่าในปี 55 มีสัดส่วนการส่งออกของไทยไปภูมิภาคอาเซียนอยู่ที่ร้อยละ 24.6 ของการส่งออกรวม ขณะที่ในปี 56 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 26.0 ของการส่งออกรวม สะท้อนว่าภูมิภาคอาเซียนเป็นตลาดส่งออกที่มีความสำคัญต่อการส่งออกไทยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ จากการที่จะมีการเปิด AEC ในปี 58 คาดว่าจะยิ่งช่วยสนับสนุนให้การส่งออกไทยไปในภูมิภาคนี้ได้เพิ่มขึ้น และจะช่วยรองรับความผันผวนของการส่งออกไทย จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก อาทิ จีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป เป็นต้น ทั้งนี้ สศค. คาดว่า ในปี 58 มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.5 - 5.5 ประมาณการ ณ เดือน ต.ค. 57) ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นจากปี 57 ที่คาดว่าจะขยายตัวเพียงเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.1
2. กรมสรรพสามิตเอาแน่รีดภาษีชาเขียว จ่อเริ่มต้นที่ร้อยละ 10-20 ชี้ช่องให้เปลี่ยนส่วนผสมใหม่
  • แหล่งข่าวจากกรมสรรพสามิตเปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตพร้อมดำเนินการเก็บภาษีเครื่องดื่มที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพตามนโยบายของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ โดยที่ผ่านมากรมฯ ได้มีการศึกษาเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ทั้งการเก็บภาษีจากเครื่องดื่มชาเขียว เครื่องดื่มน้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมไม่ตรงตามเงื่อนไข รวมถึงเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งมีอัตราการเก็บภาษีดังกล่าวอยู่แล้วที่ ร้อยละ 20 แต่ปัจจุบันเครื่องดื่มดังกล่าวอยู่ในบัญชียกเว้น 111 รายการ เพราะถือว่าเป็นการสนับสนุนเกษตรกรทั้งนี้ หากต้องการเก็บภาษีชาเขียว และน้ำผลไม้ ก็สามารถถอดเครื่องดื่มดังกล่าวออกจากบัญชียกเว้นได้เลย ส่วนอัตราภาษีจะเก็บร้อยละ 10 หรือร้อยละ 20 ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบายจะตัดสินใจ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตชาเขียวพร้อมดื่มจะส่งผลบวกสุทธิต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยไม่ทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจชาเขียวพร้อมดื่มสูญเสียรายได้เนื่องจากผลบวกของการเพิ่มขึ้นของราคามีมากกว่าผลของปริมาณที่ลดลง รวมถึงภาครัฐยังสามารถจัดเก็บภาษีซึ่งจะนำไปใช้ในการใช้จ่ายภาครัฐต่อไป ทั้งนี้ สศค. คาดว่า หากรัฐจัดเก็บภาษีชาเขียวร้อยละ 10.0 จะทำให้ภาครัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1.7 พันล้านบาทต่อปี และหากจัดเก็บภาษีชาเขียวที่ร้อยละ 20.0 จะทำให้มีภาครัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 3.4 พันล้านบาทต่อปี
3. ส่งออกจีนเดือน ต.ค. 57 พุ่งสูงกว่าคาด
  • กรมศุลกากรจีนเปิดเผยตัวเลขมูลค่าการส่งออกล่าสุดในเดือน ต.ค. 57 ขยายตัวได้ที่ร้อยละ 11.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 10.6 (รวบรวมโดยสำนักข่าว บลูมเบิร์ก) และยังเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากเดือน ก.ย. ที่ขยายตัวได้ที่ร้อยละ 15.3 สาเหตุมาจากการที่จีนได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งการส่งออกไปทั้งสองภูมิภาคคิดเป็น 1 ใน 3 ของการส่งออกทั้งหมดของจีน ขณะที่มูลค่าการนำเข้าของจีนในเดือนเดียวกันขยายตัวที่ร้อยละ 4.6 ทำให้จีนเกินดุลการค้าที่ระดับ 45.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกของจีนขยายตัวได้ดีในภาพรวม โดยนอกจากสหรัฐฯ และยุโรปแล้ว จีนยังได้รับประโยชน์จากการส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียนที่ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 18.0 และส่งออกไปฮ่องกงที่ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 24.0 นั่นทำให้เศรษฐกิจจีนได้รับประโยชน์จากการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลให้การเติบโตในภาพรวมน่าจะสามารถทำได้ตามเป้าการเติบโตที่ร้อยละ 7.5 ที่รัฐบาลจีนวางเอาไว้ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายสำนักยังคงมีความกังวลถึงความถูกต้องของข้อมูลตัวเลขการค้าของจีน โดยเฉพาะการค้าระหว่างประเทศกับฮ่องกง และการค้าในหมวดสินค้าอัญมณีที่อาจมีการบิดเบือนจากการใช้การค้าขายสินค้าเป็นใบเบิกทางเพื่อหลบเลี่ยงกฎระเบียบของเงินทุนเคลื่อนย้ายในการนำเงินเข้ามาหาประโยชน์จากค่าเงินหยวนที่แข็งค่าและอัตราดอกเบี้ยในจีนที่สูงกว่า แต่กระนั้นก็ตาม จีนได้ประสบปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่ปีที่แล้วและคาดว่าปัญหาการบิดเบือนของข้อมูลได้มีการบรรเทาเบาบางลงแล้ว ขณะที่การส่งออกในด้านอื่นๆ ก็ยังถือว่ามีการขยายตัวที่ดีเพียงแต่อาจจะไม่ได้ดีเท่าที่ตัวเลขรวมรายงาน

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ