รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 7 มกราคม 2558

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 7 มกราคม 2558

1. กกร.มองเศรษฐกิจไทยปี 58 โตร้อยละ 3.5-4.0

2. สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือ คาดส่งออกปี 58 จะขยายตัวร้อยละ 2.5

3. อัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์ เดือน ธ.ค. 57 ต่ำที่สุดในรอบ 16 เดือน

• รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่าจะมีการพิจารณาภาวะเศรษฐกิจภาพรวมปี 2557 และคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจปี 58 ที่คาดว่า GDP จะเติบโตได้ระดับประมาณร้อยละ 3.5-4.0 ภายใต้เงื่อนไขมาตรสนับสนุนจากภาครัฐที่สำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ
• สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยปี 58 คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 4.1 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ3.6-4.6) โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากอุปสงค์ภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัวโดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้านคมนาคมขนส่งและอุปสงค์จากต่างประเทศที่คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้น ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นภายหลังสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศคลี่คลายลง นอกจากนี้อุปสงค์ภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน จากปัจจัยสนับสนุนสำคัญ อาทิแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภาพรวมและแนวโน้มการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้า โดยการลงทุนภาครัฐคาดว่าจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะขยายตัวสูงถึงร้อยละ 10.7 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 8.7-12.7) เม็ดเงินจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่ปี 58 เป็นต้นไป

• ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย คาดว่าการส่งออกของไทยในปี 57 จะหดตัวร้อยละ -0.2 โดยการส่งออกไทยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 57 มีมูลค่า 209,188 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือหดตัวลงร้อยละ -0.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ในปี 58 คาดว่าการส่งออกของไทยจะขยายตัวร้อยละ 2.5 จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกเริ่มคลี่คลายลงและราคาน้ำมันในตลาดที่ปรับตัวลดลง
• สศค. วิเคราะห์ว่า แนวโน้มการส่งออกไทยในปี 58 คาดว่าจะกลับมาขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 3.5 (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 1.5-5.5 ประมาณการ ณ เดือน ต.ค. 57 ) เนื่องจาก 1) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ 2) การเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) จะเป็นปัจจัยหนุนต่อการส่งออกไปยังตลาดอาเซียน 9 ประเทศ (ซึ่งมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 26.0 ของการส่งออกของไทยทั้งหมด)3) การค้าชายแดนที่คาดว่าจะส่งออกไปยังปรเทศกัมพูชา ลาว และพม่าได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ 4) ต้นทุนการผลิตและการขนส่งในการส่งออกสินค้ามีแนวโน้มลดลงจากการอ่อนตัวของค่าเงินบาทและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและในประเทศที่มีทิศทางลดลงอย่างไรก็ดี การส่งออกไทยในปี 58 จะมีความเสี่ยงจาก 1) การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ยุโรป และญี่ปุ่น และ 2) การถูกตัดสิทธิพิเศษทางศุลกากร (GSP) ของสหภาพยุโรป ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย

• สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ประกาศ อัตราเงินเฟ้อ เดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ร้อยละ +2.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ +3.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อนอย่างมาก และถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 16 เดือน ทั้งนี้ เป็นผลจากราคาสินค้าในหมวดอาหาร ค่าใช้จ่ายในหมวดที่อยู่อาศัยและขนส่งที่ขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ +5.5 และหดตัวที่ร้อยละ -1.6 และ -1.0 ตามลำดับ
• สศค. วิเคราะห์ว่า 1) อัตราเงินเฟ้อ เดือน ธ.ค. 57 ที่ลดลงนั้นเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลง ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งลดลง ราคาสินค้าในหมวดอาหารก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์ในปี 57 อยู่ที่ร้อยละ +4.2 ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ทางธนาคารกลางฟิลิปปินส์ตั้งไว้ที่ร้อยละ 3-5 และ 2) การที่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงถือเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 57 และต่อเนื่องไปยังปี 58 หลังจากที่ในปี 57 เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัวได้ต่ำกว่าที่ทางการฟิลิปปินส์ได้เคยคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ +7.0 โดยล่าสุด GDP ไตรมาสที่ 3 ขยายตัวชะลอลงมากมาอยู่ที่ร้อยละ +5.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นผลจากการใช้จ่ายภาครัฐที่หดตัวร้อยละ -2.6 เป็นสำคัญ

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257