Executive Summary
- ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือน ส.ค. 58 หดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -24.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือน ส.ค. 58 ขยายตัวร้อยละ 0.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ส.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 82.4
- ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรในเดือน ส.ค. 58 หดตัว ร้อยละ -11.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ในเดือน ส.ค. 58 หดตัวร้อยละ -3.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. 58 อยู่ที่ 5.1 แสนหลัง หรือขยายตัวร้อยละ 5.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่ ยอดสร้างบ้านใหม่ เดือน ส.ค. 58 หดตัวร้อยละ -3.0
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม Caixin ของจีน เดือน ก.ย. 58 (ตัวเลขเบื้องต้น) อยู่ที่ระดับ 47.0 จุด
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เดือน ก.ย. 58 (ตัวเลขเบื้องต้น) อยู่ที่ระดับ 50.9 จุด
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน เดือน ก.ย. 58 (เบื้องต้น) อยู่ที่ -7.1 จุด
- อัตราเงินเฟ้อของฮ่องกง เดือน ส.ค. 58 ทรงตัวที่ ร้อยละ 2.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
Indicator next week
Indicators Forecast Previous Aug : ยอดขายรถยนต์นั่ง (%YOY) -5.6 -5.3- ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 8 และต่ำสุดในรอบ 75 เดือน นับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 52 จากความกังวลต่อภาวะความซบเซาทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ รายได้เกษตรกรที่มีการหดตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อภายในประเทศ อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ CLMV อาจมีส่วนช่วยกระตุ้นคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ
- ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือน ส.ค. 58 มีจำนวน 22,790 คัน คิดเป็นการหดตัวต่อเนื่อง ที่ร้อยละ -24.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นการหดตัวร้อยละ -1.5 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศยังคงเปราะบาง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ครัวเรือน และราคาสินค้าเกษตรที่หดตัวต่อเนื่อง ทำให้การบริโภคสินค้าคงทนยังคงหดตัวในระดับสูง กอปรกับการเร่ง การบริโภคไปก่อนหน้านี้จากนโยบายรถคันแรกทำให้ปริมาณการบริโภคสินค้าคงทน โดยเฉพาะรถยนต์นั่งยังคงหดตัว ทั้งนี้ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 58 (ม.ค.ถึง ส.ค.) ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งหดตัวร้อยละ -21.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือน ส.ค. 58 อยู่ที่ 39,201 คัน หรือขยายตัวร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออกแล้ว พบว่าขยายตัวร้อยละ 2.8 ขณะที่ปริมาณจำหน่ายรถกระบะ 1 ตัน ในเดือน ส.ค. 58 มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 26,018 คัน หรือคิดเป็นการ หดตัวร้อยละ -18.3 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออกแล้วพบว่า หดตัวร้อยละ -12.0
- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ส.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 82.4 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 83.0 ปรับตัวลดลงเป็นเดือน ที่ 8 และต่ำสุดในรอบ 75 เดือนนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 52 จากความกังวลต่อภาวะความซบเซาทางเศรษฐกิจการหดตัวของการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะภาคเกษตรที่ประสบปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ทำให้การใช้จ่ายเป็นไปอย่างระมัดระวัง ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะเปราะบางและมีความเสี่ยงสูง
- ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรในเดือน ส.ค. 58 หดตัวร้อยละ -11.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -9.8 หรือคิดเป็นการหดตัวร้อยละ -0.8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามการหดตัวของผลผลิต ในหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ ผลผลิตข้าวเปลือก มันสำปะหลัง ข้าวโพด และปาล์มน้ำมัน จากผลกระทบของปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะผลผลิตข้าวเปลือกที่หดตัวในระดับสูง โดยในเดือนส.ค. ผลผลิตข้าวเปลือกหดตัวร้อยละ -68.6 ขณะที่ผลผลิตในหมวดปศุสัตว์ และหมวดประมง ยังคงขยายตัวได้ดี อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไม่มีสถานการณ์โรคระบาด ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 58 (ม.ค.- ส.ค.) ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรหดตัวร้อยละ -7.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
- ดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ในเดือนส.ค.58 หดตัวร้อยละ -3.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หดตัวชะลอลงจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -6.3 หรือคิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลโดยสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรยังคงหดตัว19 เดือน ติดต่อกัน โดยในเดือน ส.ค. ดัชนีราคาฯ หดตัวจากราคายางพาราเป็นสำคัญ ตามอุปสงค์ยางพารา จากผู้นำเข้าที่สำคัญอย่างประเทศจีนที่ลดลง กอปรกับการลดลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก รวมถึงราคาผลผลิตในหมวดปศุสัตว์ และประมงที่หดตัวตามปริมาณผลผลิตที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 58 (ม.ค.- ส.ค.) ดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้หดตัวร้อยละ -6.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ส.ค. 58 คาดว่าจะหดตัวที่ร้อยละ -5.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากดัชนี ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 8 และต่ำสุดในรอบ 75 เดือน นับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 52 จากความกังวลต่อภาวะความซบเซาทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ รายได้เกษตรกรที่มีการ หดตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อภายในประเทศ อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ CLMV อาจมีส่วนช่วยกระตุ้นคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ
Global Economic Indicators: This Week
ภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว ขณะที่ราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น สะท้อนจากยอดขายบ้านมือสอง เดือน ส.ค. 58 อยู่ที่ 5.1 แสนหลัง หรือขยายตัวร้อยละ 5.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอลงจากเดือนก่อน ทั้งจากยอดขายบ้านเดี่ยวและอาคารชุด ราคากลางบ้านมือสองเดือน ส.ค. 58 อยู่ที่ 2.3 แสนดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากราคาบ้านทุกประเภท ยอดสร้างบ้านใหม่ เดือน ส.ค. 58 หดตัวร้อยละ -3.0 จากเดือนก่อน (ขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว) เนื่องจากบ้านทุกประเภทที่หดตัว ขณะที่ยอดใบอนุญาตก่อสร้างบ้านใหม่ เดือน ส.ค. 58 กลับมาขยายตัวร้อยละ 3.5 จากเดือนก่อน (ขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว) จากใบอนุญาตก่อสร้างบ้านทุกประเภทที่กลับมาขยายตัว
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม Caixin เดือน ก.ย. 58 (ตัวเลขเบื้องต้น) อยู่ที่ระดับ 47.0 จุด ลดลงต่ำกว่าระดับ 50.0 จุด ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และนับเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 78 เดือนโดยดัชนีย่อยส่วนใหญ่แสดงการปรับตัวลดลงในอัตราที่รวดเร็วขึ้น ทั้งผลผลิต คำสั่งซื้อใหม่ คำสั่งซื้อใหม่เพื่อการส่งออก และราคาผลผลิต เป็นต้น
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ก.ย. 58 (ตัวเลขเบื้องต้น) อยู่ที่ระดับ 50.9 จุด ลดลงจากเดือนก่อน จากดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ ยังคงอยู่เหนือระดับ 50.0 จุด บ่งชี้การขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 อัตราเงินเฟ้อ เดือน ส.ค. 58 อยู่ที่ร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อน จากค่าขนส่งที่ลดลงต่อเนื่อง 5 เดือน
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ย. 58 (เบื้องต้น) อยู่ที่ -7.1 จุด ลดลงจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ เดือน ก.ย. 58 (เบื้องต้น) อยู่ที่ 53.9 จุด ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ 54.3 แต่ยังอยู่ในระดับสูง และอยู่ในระดับที่มีการขยายตัว สะท้อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องของยูโรโซน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ 52.0 จุด ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ อยู่ที่ 54.0 จุด บ่งชี้การขยายตัวของภาคอุปทานยูโรโซนต่อเนื่อง
อัตราเงินเฟ้อ เดือน ส.ค. 58 ทรงตัวที่ร้อยละ 2.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ด้านมูลค่าการส่งออก เดือน ส.ค. 58 หดตัวร้อยละ -6.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการหดตัวของการส่งออกไปจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลีใต้ มูลค่าการนำเข้า เดือน ส.ค. 58 หดตัวร้อยละ -7.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ทำให้ดุลการค้า เดือน ส.ค. 58 ขาดดุล 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง
อัตราเงินเฟ้อ เดือน ส.ค. 58 อยู่ที่ร้อยละ 3.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ลดลงจากร้อยละ 3.2 ในเดือนก่อน จากราคาสินค้าส่วนใหญ่ที่ปรับตัวลดลง อาทิ กาแฟและเครื่องดื่มที่มิใช่แอลกอฮอล์ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน และค่าขนส่ง
มูลค่าการนำเข้า เดือน ก.ค. 58 ขยายตัวร้อยละ 16.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยขยายตัวเลข 2 หลักต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังจากหดตัว 3 เดือน โดยเป็นผลจากการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง และสินค้าทุนที่ขยายตัวในระดับสูง ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกที่หดตัวและมูลค่าการนำเข้าที่ขยายตัวสูง ส่งผลให้ดุลการค้า เดือน ก.ค. 58 ขาดดุล 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการขาดดุลที่สูงสุดในรอบ 1.5 ปี เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 58 ธนาคารกลางฟิลิปปินส์มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 4.0 ต่อปี
อัตราเงินเฟ้อ เดือน ส.ค. 58 อยู่ที่ร้อยละ -0.8 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ลดลงต่อเนื่องจากร้อยละ -0.4 ในเดือนก่อนหน้า จากราคาสินค้าส่วนใหญ่ที่ปรับตัวลดลง ยกเว้นหมวดอาหาร สันทนาการและวัฒนธรรม และการศึกษา ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ส.ค. 58 หดตัวร้อยละ -7.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หดตัวเป็นเดือนที่ 8 จากเครื่องนุ่งห่ม ผลิตภัณฑ์กระดาษ และเครื่องใช้ในครัวเรือนที่หดตัวต่อเนื่อง
อัตราการว่างงาน เดือน ส.ค. 58 ทรงตัวที่ร้อยละ 3.7 ของกำลังแรงงานรวม ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ด้านผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ส.ค. 58 หดตัวร้อยละ -5.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ธนาคารกลางไต้หวันมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเดือน ก.ย. 58 ลง 12.5 bps จาก ร้อยละ 1.875 ต่อปี เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งมีสัญญาณชะลอลงอย่างชัดเจน หลังจากในไตรมาส 2 ปี 58 เศรษฐกิจไต้หวันขยายตัวเพียงร้อยละ 0.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอลงจากร้อยละ 3.4 ในไตรมาสก่อนหน้า จากการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่อง
- ดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนีฯ ณ 24 ก.ย. 58 ปิดที่ระดับ 1,372.35 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันทั้งสัปดาห์เบาบางเพียง 35,080.7 ล้านบาท โดยมีแรงขายจากนักลงทุนชาวต่างชาติและนักลงทุนสถาบันในประเทศ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคาร จากความกังวลต่อการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัท SSI ที่อาจส่งผลกระทบต่อธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่ 3 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีความกังวลจากเครื่องชี้เศรษฐกิจ PMI ของจีนที่บ่งชี้การหดตัวของภาคการผลิต ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และนักลงทุนจับตาคำแถลงของนางเยลเลน ประธาน Fed ในช่วงเย็นของวันที่ 24 ก.ย. 58 (ตามเวลาสหรัฐฯ) ที่คาดว่าจะกล่าวถึงแนวทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐ ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 21 - 24 ก.ย. 58 นักลงทุนต่างชาติขายหลักทรัพย์สุทธิ 7,127.0 ล้านบาท
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 3 ปีขึ้นไปปรับตัวลดลง โดยมีแรงซื้อจากนักลงทุนชาวต่างชาติ และจากนักลงทุนรายย่อย จากผลประมูลพันธบัตรรัฐบาล Benchmark 15 ปี ที่ได้รับความสนใจถึง 2.76 เท่าของวงเงินประมูล ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 21 - 24 ก.ย. 58 นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรสุทธิ 4,762.6 ล้านบาท (ไม่รวมพันธบัตร ธปท.)
- เงินบาทอ่อนค่าลงจากสัปดาห์ก่อน โดย ณ วันที่ 24 ก.ย. 58 เงินบาทปิดที่ระดับ 36.32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงร้อยละ 1.75 จากสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลภูมิภาค เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เงินบาทที่อ่อนค่าลงมากกว่าเงินสกุลอื่นๆ โดยเฉลี่ย ส่งผลให้ ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ในสัปดาห์นี้อ่อนค่าลงร้อยละ 0.82 จากสัปดาห์ก่อน
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3253 : www.fpo.go.th