รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 27, 2008 11:31 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 27 พ.ย. 2551

SUMMARY:
  • พันธมิตรปิดสนามบินสูญเสียรายได้กว่า 1 แสนล้านบาท
  • จีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแรงที่สุดในรอบ 10 ปี
  • เฟดออกมาตรการ 8 แสนล้านดอลลาร์ ฟื้นตลาดสินเชื่อ
HIGHLIGHT:
1. สภาอุตฯ ประเมินการปิดสนามบินสูญเสียรายได้กว่า 1 แสนล้านบาท
  • สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเมินผลกระทบจากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิว่าจะกระทบรายได้จากการท่องเที่ยวของไทยมากที่สุดเพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น โดยคาดว่าจะส่งผลนานกว่า 6 เดือน ระบุปกติรายได้จากการท่องเที่ยวช่วงเดือนพ.ย.-ก.พ. จะอยูที่ร้อยละ 40.0 ของรายได้ทั้งหมดจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งประมาณกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งการปิดสนามดังกล่าวจะทำให้สูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวไปกว่าแสนล้านบาท
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ผลกระทบจากการปิดสนามสุวรรณภูมิ จะส่งผลกระทบโดยตรงนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศในช่วงฤดูกาลการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี อาจส่งผลให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ต้องปรับลดเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศในปี 51 ที่14.5 ล้านคน ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาในประเทศในช่วง 10 เดือนแรกปี 51 เท่ากับ 12.4 ล้านคน หรือขยายตัวร้อยละ 6.9 ต่อปี ทั้งนี้ สศค. คาดว่า ช่วง 2 เดือนที่เหลือจะมีนักท่องเที่ยวหายไป 4 แสนคน
2. จีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแรงที่สุดในรอบ 10 ปี
  • ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 1.08 ซึ่งการปรับลดเป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี โดยอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมอ้างอิงลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 5.58 และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอ้างอิงลงลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.52 ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงเช่นในครั้งนี้เคยเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจของเอเชีย เมื่อเดือนตุลาคม 1997 ซึ่งมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมอ้างอิงลงร้อยละ 1.44
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากการประกาศแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีนจำนวน 586 พันล้านดอลลาร์หสรัฐฯ เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 51 จึงเป็นการส่งสัญญานว่ารัฐบาลจีนมีความเป็นห่วงต่อภาวะเศรษฐกิจของจีนที่อาจชะลอตัวลงมากกว่าที่คาด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจจีนในปี 52 จะขยายตัวได้ร้อยละ 8.0 ต่อปี ชะลอลงจากปี 51 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 9.4 ต่อปี (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 51)
3. เฟดออกมาตรการ 8 แสนล้านดอลลาร์ ฟื้นตลาดสินเชื่อ
  • สำนักข่าวรอยเตอร์และบลูมเบิร์ก รายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ออกมาตรการฉบับใหม่เพื่อฟื้นฟูตลาดที่อยู่อาศัยกระตุ้นตลาดสินเชื่อและหวังผ่อนคลายปัญหาตลาดสินเชื่อด้วยการเพิ่มปล่อยเงินกู้ให้ผู้บริโภค รวมถึงเจ้าธุรกิจขนาดเล็กมีมูลค่ารวม 8 แสนล้านดอลลาร์โดยมาตรการนี้มีจุดประสงค์เพื่อลดต้นทุน เพิ่มปริมาณการปล่อยสินเชื่อซื้อบ้านน่าจะช่วยหนุนตลาดที่อยู่อาศัย และทำให้สถานการณ์ทางการเงินโดยรวมดีขึ้น ซึ่งจะเริ่มใช้มาตรการดังกล่าวตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ผลจากวิกฤติสินเชื่ออสังหาฯด้อยคุณภาพ (Sub-Prime Mortgage) ได้ลุกลามไปสู่ภาคการเงินรวมไปถึงภาคเศรษฐกิจจริงส่งผลต่อภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐตามมา ดังนั้น การที่ Fed ออกมาตรการเพิ่มเงินอีกกว่า 8 แสนล้านดอลลาร์จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยบรรเทาภาวะสภาพคล่องตึงตัวทางการเงินของสหรัฐฯ(Credit crunch)และน่าจะส่งผลดีต่อตลาดตราสารหนี้ ตลาดทุน สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั่วโลก ซึ่งจะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจสหรัฐได้ ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐ ไตรมาส 3 ขยายตัวเหลือเพียงร้อยละ 0.7 ต่อปี (%yoy) หรือหดตัวร้อยละ -0.5 (%qoq)

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ