Macro Morning Focus ประจำวันที่ 12 ม.ค. 2552
SUMMARY:
- นักเศรษฐศาสตร์คาด ธปท. จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.5 - 0.75
- ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเดือนพฤศจิกายน 2551 หดตัวลงที่ร้อยละ 3.7
- ว่างงานสหรัฐสูงสุดในรอบ 16 ปี ด้านการบริโภคหดตัวต่อเนื่อง
HIGHLIGHT:
1. นักเศรษฐศาสตร์คาด ธปท. จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.5 — 0.75
- นักเศรษฐศาสตร์จากหลายสำนัก คาดว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันพุธที่จะถึงนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (RP 1 วัน) ลงร้อยละ 0.5 - 0.75 จากระดับปัจจุบันที่ร้อยละ 2.75 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาผลกระทบที่มีต่อภาคเอกชนจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ประกอบกับความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ลดลง ทั้งนี้ คาดว่า ธปท. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกอย่างต่อเนื่อง จนทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 1 — 1.5 ในช่วงกลางปีนี้
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงทำให้คาดว่าเศรษฐกิจของไทยในปี 2552 จะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.0 — 2.0 ต่อปีดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องใช้นโยบายทางการคลัง โดยเน้นการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น จึงมีความจำเป็นที่นโยบายการเงินจะต้องเอื้ออำนวยให้เกิดการลงทุนและบรรเทาภาระของภาคเอกชนในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในขณะนี้
2. ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตประจำเดือนพฤศจิกายน 2551 หดตัวลงที่ร้อยละ 3.7
- ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตประจำเดือนพฤศจิกายน 2551 มีปริมาณทั้งสิ้น 71.7พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 2.7 พันล้านบาทหรือหดตัวร้อยละ 3.73 ต่อปี ซึ่งเป็นการลดลงทั้งจากการใช้จ่ายภายในประเทศที่มียอดใช้จ่าย 52.17 พันล้านบาท และการเบิกเงินสดล่วงหน้าที่มียอดใช้จ่าย 17.01 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยอดสินเชื่อบัตรเครดิตคงค้างขยายตัวที่ร้อยละ 5.0 ต่อปีและยอดคงค้างสินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัวที่ร้อยละ 7.63 ต่อปี
- สศค. วิเคราะห์ว่า การชะลอตัวลงของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเดือนพฤศจิกายน สะท้อนให้เห็นถึงการชะลอตัวลงของการบริโภคภายในประเทศ ทั้งนี้ สศค. คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนในไตรมาสที่ 4 ของปี 2551 จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.2 ชะลอตัวลงจากไตรมาส 3 ที่ร้อยละ 2.6 เนื่องจากความไม่มั่นใจของภาคเอกชนต่อสภาวะเศรษฐกิจ โดยสะท้อนได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ (Real VAT) ในเดือน ธ.ค. หดตัวลงมาอยู่ร้อยละ -3.8 ต่อปี
3. ว่างงานสหรัฐสูงสุดในรอบ 16 ปี ด้านการบริโภคหดตัวต่อเนื่อง
- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า อัตราการว่างงานสหรัฐในเดือน ธ.ค. 51 อยู่ที่ร้อยละ 7.2 ของกำลังแรงงานรวม สูงสุดในรอบ 16 ปี โดยมีการปลดคนงาน 5.3 แสนตำแหน่ง ทำให้ทั้งปี 51 ตัวเลขว่างงานสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านตำแหน่ง ด้านนักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะตกต่ำมากที่สุดในไตรมาสที่ 4 ปี 51 เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมจะเริ่มชะลอการผลิตเพื่อระบายสินค้าคงคลัง หลังจากที่ผู้บริโภคเริ่มชะลอการบริโภค โดยการบริโภคภาคเอกชนที่แท้จริง (หักเงินเฟ้อ) ของสหรัฐในไตรมาสที่ 3 หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีที่ร้อยละ -3.8 และรุนแรงมากที่สุดในรอบ 28 ปี
- สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ผู้บริโภคสหรัฐยังคงชะลอการบริโภคต่อเนื่องอาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง เนื่องจากการบริโภคสหรัฐมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 70 ต่อ GDP อย่างไรก็ตาม หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 7.75 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐของว่าที่ประธานาธิบดีโอบามาสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในส่วนของมาตรการลดภาษีจำนวน 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ น่าจะช่วยกระตุ้นให้ภาคการบริโภครวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐมิให้หดตัวลงมากนักในปี 2552
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th