รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 28 มกราคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 28, 2009 11:28 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 28 ม.ค. 2552

SUMMARY:
  • นายกรัฐมนตรีเชื่อเศรษฐกิจพ้นวิกฤต ปลายปีนี้
  • เอกชนเตรียมเสนอนายกฯ จัดสรรงบ 5 หมื่นล้านบาทเพื่อตั้งกองทุนค้ำประกันส่งออก
  • IMF อาจจะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกประจำปี 52 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1 — 1.5
HIGHLIGHT:
1. นายกรัฐมนตรีเชื่อเศรษฐกิจพ้นวิกฤต ปลายปีนี้
  • นายกรัฐมนตรียอมรับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มีโอกาสที่จะขยายตัวติดลบ ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องมาจากช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน แต่เชื่อว่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี อย่างไรก็ตาม มั่นใจประเทศไทยจะสามารถหลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้ภายในปลายปีนี้หรือราวต้นปี 53 หากมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลประเทศต่างๆ นำออกมาใช้ได้ผลเป็นรูปธรรม ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกมีเสถียรภาพไม่เกิดความผันผวนมาก
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาคการผลิตจริงของประเทศไทยจนอาจทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส1/52 เกิดการชะลอตัวจนถึงระดับติดลบ หากภาครัฐไม่เข้าไปช่วยเหลืออย่างทันท่วงที อย่างไรก็ดี รัฐบาลได้ใช้นโยบายฟื้นฟูเพื่อรับมือกับวิกฤติครั้งนี้ เช่น เพิ่มงบประมาณรายจ่ายกลางปีอีก 1.16 แสนล้านบาท, มาตรการช่วยเหลือทางภาษีแก่ภาคธุรกิจต่างๆ, มาตรการสินเชื่อผ่านสถาบันการเงินของรัฐ 3.4 แสนล้านบาท รวมทั้งเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจจริงในไตรมาสที่ 2 ของปี ทำให้ทาง สศค.คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 52 สามารถขยายตัวได้ที่ร้อยละ 1.9 ต่อปี
2.เอกชนเตรียมเสนอนายกฯ จัดสรรงบ 5 หมื่นล้านบาทเพื่อตั้งกองทุนค้ำประกันส่งออก
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนเตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ครั้งหน้า เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณจำนวน 50,000 ล้านบาท ในการจัดตั้งกองทุนค้ำประกันการส่งออก โดยเป็นการให้รัฐบาลช่วยค้ำประกันการส่งออกให้กับ SMEs ซึ่งจะจูงใจให้ผู้ส่งออกรายย่อยกล้าออกไปทำตลาดใหม่แทนตลาดหลักที่กำลังซื้อเริ่มลดลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกส่งให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าของไทยหดตัวลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2551 ส่งผลต่อภาคการส่งออกไทยหดตัวลง โดยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2551 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปริมาณส่งออกหดตัวลงร้อยละ -14.6 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีปริมาณส่งออกสินค้าขยายตัวร้อยละ 9.7 ดังนั้น การจัดตั้งกองทุนเพื่อค้ำประกัน การส่งออกเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกรายย่อยซึ่งสนับสนุนภาคการส่งออกไปยังตลาดใหม่ที่ยังคงมีศักยภาพ จะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นภาคการส่งออกของไทยในอนาคต ทั้งนี้ ในเบื้องต้นรัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (EXIM bank) ดำเนินนโยบายประกันการส่งออกในวงเงิน 25,000บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกรายย่อยภายใต้มาตการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล
3. IMF อาจจะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกประจำปี 52 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1 — 1.5
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อาจจะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกประจำปี 52 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1 — 1.5 ต่อปีหลังจากที่เคยคาดไว้ว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.2 ต่อปีในเดือน พ.ย. 51 เนื่องจากตัวเลขเครื่องชี้เศรษฐกิจที่ได้มีการประกาศออกมาหลังจากเดือน พ.ย. 51 ได้แสดงถึงภาวะการถดถอยทางเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจโลกจะชะลอลงดังที่ IMF คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวที่ประมาณร้อยละ 1 — 1.5 ต่อปี (โดยในคำจำกัดความของ IMF กล่าวว่าหากเศรษฐกิจโลกขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 3 บ่งชี้ว่าทั่วโลกกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย) เนื่องจากเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกล่าสุดส่งสัญญาณถดถอยลงอย่างรุนแรง ทั้งเครื่องชี้การบริโภคและการลงทุนในประเทศพัฒนาแล้ว และเครื่องชี้ทางด้านการส่งออกในประเทศกำลังพัฒนา ทั้งนี้ หากรัฐบาลจากทั่วโลกออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการใช้นโยบายการคลังแบบขยายตัวที่มีมูลค่ามากกว่าร้อยละ 10 ของกรอบวงเงินงบประมาณเดิม น่าจะมีส่วนช่วยทำให้ภาวะเศรษฐกิจโลกไม่ถดถอยรุนแรงได้

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ