รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 20 พฤษภาคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 20, 2009 11:30 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 20 พ.ค. 2552

SUMMARY:

1. โตโยต้าประเทศไทยเปิดเผยยอดขายรถยนต์ทั้งระบบเดือน เม.ย.ลดลงร้อยละ 27.4

2. ธปท. แจงเงินไหลกลับจากการเกินดุลการค้าทำให้ตลาดเงินผันผวน

3. ครุกแมนชี้เศรษฐกิจโลกใกล้ต่ำสุด

HIGHLIGHT:
1. โตโยต้าประเทศไทยเปิดเผยยอดขายรถยนต์ทั้งระบบเดือน เม.ย.ลดลงร้อยละ 27.4
  • บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เผยยอดขายรถยนต์ทั้งระบบในเดือน เม.ย. ลดลงร้อยละ 27.4 ต่อปี เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 จากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองในเดือน เม.ย. โดยภาคตลาดรถยนต์ที่ชะลอตัวลงมากได้แก่รถยนต์เชิงพาณิชย์ที่หดตัวถึงร้อยละ 39.7 ต่อปี ในขณะที่รถยนต์ส่วนบุคคลขยายตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ 4.2 โดยได้รับอานิสงค์จากฐานที่ต่ำในช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาจากการรอการเปิดตัวของรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นใหม่
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ยอดขายรถยนต์ที่หดตัวลงมาจากรถยนต์เชิงพาณิชย์ตามการการลงทุนในประเทศที่ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม คาดว่ายอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์น่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 52 ตามการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐ (Mega Project) ที่จะเพิ่มอุปสงค์ต่อสินค้าในประเทศ และจูงใจให้การลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น (Crowding in effect) ประกอบกับสถานการณ์ที่ไม่ปกติและจำนวนวันทำการที่น้อยในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาและปัจจัยฐานต่ำในช่วงครึ่งหลังปี 51
2. ธปท. แจงเงินไหลกลับจากการเกินดุลการค้าทำให้ตลาดเงินผันผวน
  • รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่าความผันผวนของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วงนี้ เกิดขึ้นจากจากหลายสาเหตุ เช่น การเกินดุลบัญชีการค้า และบัญชีเดินสะพัดซึ่งมีการเกินดุลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และยังมีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ดีค่าเงินบาทยังคงเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค และยังอยู่ในช่วงที่ไม่แข็งมากหรืออ่อนมาก หากมีความจำเป็น ธปท.ก็พร้อมที่จะเข้าไปดูแลค่าเงินบาทแต่จะไม่ฝืนแนวโน้มหรือทิศทางของตลาดในขณะนั้น
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากระดับ 35.03 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐ มาสู่ระดับ 34.53 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐ หรือแข็งค่าขึ้นร้อยละ 1.42 ภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งแข็งค่าขึ้นมากกว่าค่าเงินในภูมิภาคเช่นค่าเงินวอน, รูเปีย,เปโซ, ดอลล่าร์สิงคโปร์ ที่แข็งค่าขึ้นเพียงร้อยละ 1.33, 0.59, 0.58, ,0.25 ตามลำดับ ส่งผลโดยตรงต่อภาคการส่งออก โดยทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบด้านราคากับประเทศคู่แข่งที่กล่าวมา จึงจำเป็นต้องอาศัยการบริหารจัดการที่ดีเพื่อไม่ให้ภาคการส่งออกซึ่งอ่อนแออยู่ในขณะนี้ได้รับผลกระทบจนไม่สามารถฟื้นตัวได้
3. ครุกแมนชี้เศรษฐกิจโลกใกล้ต่ำสุด
  • นายพอล ครุกแมน เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์ กล่าวคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกรวมถึงสหรัฐว่า อาจหลุดพ้นจากภาวะถดถอย (recession) อย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายไตรมาส 3 ย่างเข้าสู่ไตรมาส 4 ปี อย่างไรก็ตาม ครุกแมนเชื่อว่าการหลุดพ้น จากก้นบึ้งของภาวะถดถอยจะเกิดขึ้นในขณะที่ตลาดแรงงานมีแนวโน้มจะย่ำแย่ต่อเนื่องซึ่งหมายถึงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอาจจะยังอยู่อีกยาวนานไม่น้อยกว่า 5 ปี
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การที่เศรษฐกิจโลกจะสามารถฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดได้ เพราะหลายประเทศได้ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ นโยบายการคลังขาดดุล และมาตรการทางการเงิน เช่น การลดอัตราดอกเบี้ย สำหรับประเทศไทยซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั้น อยู่ระหว่างการเสนอโครงการลงทุนภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 (2553-2555) ต่อศาลรัฐธรรมนูญและโครงการดังกล่าวคาดว่าจะมีการเพิ่มการจ้างงานผ่านโครงการลงทุนขนาดเล็ก กลางและใหญ่ของรัฐบาลไปยังส่วนภูมิภาคและชนบท ประมาณ 1.6-2 ล้านคน ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาการว่างงานของไทยได้ ทั้งนี้ ณ เดือนมีนาคม 2552 ประเทศไทยมีจำนวนผู้ว่างงาน 714,000 คน ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ