บทสรุปผู้บริหาร: ภาวะเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรประจำเดือนเมษายน 2009

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 20, 2009 12:11 —กระทรวงการคลัง

บทสรุปผู้บริหาร

ภาวะเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร ประจำเดือนเมษายน 2009 พบว่าเสถียรภาพภายใน (internal stability) ยังคงแย่ลงหลังจากที่ GDP ไตรมาสแรกของปีนี้ออกมาติดลบลึกกว่ากว่าที่คาดไว้ โดยอัตราเงินเฟ้อก็ยังคงลดลงต่อเนื่องโดยเฉพาะ RPI ที่เข้าสู่ภาวะติดลบเป็นครั้งแรก ขณะที่จำนวนผู้ว่างงานมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเกินระดับ 2 ล้านคนเป็นเดือนที่สองแล้วส่งผลให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 6.7 ถือเป็นจำนวนผู้ว่างงานที่สูงที่สุดนับจากปี 1997 เป็นต้นมา และการที่ธนาคารกลางอังกฤษได้ดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อเนื่องจนปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Bank rate) อยู่ที่ระดับต่ำเพียงร้อยละ 0.5 รวมถึงความพยายามในการดำเนการเพิ่มปริมาณเงินเข้าระบบ (Quantitative easing) แม้จะส่งผลดีต่อสภาพคล่องของระบบการเงินเมื่ออัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงโดยตลอดจนลงมาอยู่ในระดับต่ำ แต่การส่งผ่านผลของนโยบายการเงินไปสู่ภาคเศรษฐกิจยังไม่เกิดขึ้นแม้ว่าปริมาณเงินและสินเชื่อตามความหมายกว้าง (M4 and M4 Lending) จะยังคงขยายตัวสูง แต่ก็เป็นการขยายตัวของการให้กู้ยืมระหว่างสถาบันการเงินด้วยกันเป็นหลัก แต่หากพิจารณาการให้สินเชื่อต่อภาคธุรกิจแล้วพบว่าอัตราการขยายตัวมีการชะลอตัวลงต่อเนื่อง ขณะที่สินเชื่อสู่ภาคครัวเรือนขยายตัวติดลบเป็นเดือนที่ห้าติดต่อกัน ประกอบกับการที่ราคาที่อยู่อาศัยยังคงลดลงแม้จะเริ่มลดในอัตราที่ชะลอลงบ้างแล้วก็ตาม ทำให้แนวโน้มความต้องการภายใน (domestic demand) น่าจะยังคงชะลอตัวลงต่อไป ขณะที่ทางด้านเสถียรภาพภายนอก (external stability) มีการปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงโดยการขาดดุลการค้าและบริการในเดือนล่าสุดขาดดุลลดลงจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 15.9 เนื่องจากการนำเข้าชะลอตัวลงเร็วกว่าการชะลอตัวของการส่งออก ประกอบกับมีการเกินดุลบริการเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ในช่วงที่ผ่านมา แม้ในเดือนนี้เงินปอนด์จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินทุกสกุลก็ตาม

ในเดือนมีนาคมซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณปัจจุบันรัฐบาลขาดดุลงบประมาณสูงถึง 19.1 พันล้านปอนด์ ขาดดุลมากกว่าปีที่แล้วถึง 1.6 เท่า ส่งผลให้ทั้งปีงบประมาณ รัฐบาลขาดดุลทั้งสิ้น 90.0 พันล้านปอนด์ สูงกว่าที่กระทรวงการคลังเคยประมาณการไว้ในคราวแถลงบประมาณเมื่อเดือนมีนนาคมปีที่คาดดว่าขาดดุลเพพียง 43 พันลล้านปอนด์ แลละทำให้ฐานะหนี้สาธธารณะต่อ GDP สูงถึงร้อยยละ 50.9 สาเหตุมาจากการจัดเก็บรายยได้ลดลง ขณะที่รายจ่ายมีมากขึ้นจากภาระในกการฟื้นฟูภาคการเงินและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ