สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้
คาดว่าค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน โดยนักวิเคราะห์ 6 รายมองว่า ค่าเงินบาทน่าจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ ตามทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ โดยจะอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากแรงซื้อดอลลาร์คืนเพื่อทำกำไรของนักลงทุน ประกอบกับค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงตามค่าเงินในภูมิภาค และธปท. ยังพยายามแทรกแซงไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งเกินไป ส่วนนักวิเคราะห์ 2 รายเห็นว่า เงินทุนจากต่างชาติยังคงไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
คาดว่า Bond Yield อายุ 2 ปี จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมีนักวิเคราะห์ 5 รายมองว่า Yield ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจาก อัตราผลตอบแทนระยะสั้นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ส่วนหนึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นตามพันธบัตรระยะสั้นของสหรัฐฯ และพันธบัตรอายุ 3-5 ปีปรับตัวขึ้นมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ช่วงอายุดังกล่าว ปรับตัวขึ้นน้อยกว่า จึงน่าจะทำให้อัตราผลตอบแทนรุ่นอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้นตาม รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์ 4 ราย คาดว่า Yield จะปรับลดลงเนื่องจากในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาผลตอบแทนพันธบัตร 2 ปี ปรับตัวขึ้นมาก อาจทำให้มีการซื้อกลับเข้ามาของกองทุนและพอร์ตแบงค์
สำหรับ Bond Yield อายุ 10 ปี นักวิเคราะห์ 6 รายคาดว่า Yield จะปรับลดลง สาเหตุสำคัญมาจากปริมาณพันธบัตรหมุนเวียนในตลาดค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็น Benchmark ใหม่ และธปท. ยังมีการเข้ามาซื้ออีก จึงทำให้ราคาน่าจะลงได้หากมีแรงซื้อเข้ามา ส่วนนักวิเคราะห์ 2 รายเห็นว่า Yield จะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนโยบายการระดมเงินของรัฐบาล
คาดว่า SET จะลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 626.59 โดยนักวิเคราะห์ 4 รายคาดว่า SET จะปรับตัวลดลง เนื่องจาก SET เข้าใกล้จุดปรับฐาน จึงอาจมีการทำกำไรเมื่อ พรก. กู้เงินผ่านรัฐสภา ประกอบกับการแพร่ระบาดของ H1N1 และแรงเฉื่อยของนักลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น ส่วนนักวิเคราะห์ 5 รายคาดว่า SET จะปรับสูงขึ้นจากการคาดการณ์ว่า พ.ร.บ และ พ.ร.ก เงินกู้น่าจะผ่านอนุมัติจากรัฐสภา ซึ่งจะทำให้ภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจดีขึ้น ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อเนื่องจากการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะออกมาแย่กว่าที่คาด นอกจากนี้ เงินทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าและระดับราคาน้ำมันที่น่าจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง
นักวิเคราะห์ 8 ราย คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะยังคงซื้อสุทธิใน SET เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่กำลังอ่อนตัวลงและแนวโน้มของเศรษฐกิจเอเชียจะปรับตัวดีขึ้นรวมทั้ง มูลค่าหุ้นยังสามารถลงทุนได้ในระยะยาว นักลงทุนต่างชาติยังมีหุ้นในประเทศไทยน้อย ดังนั้นจึงมีช่องว่างให้ซื้อเพิ่มได้ สำหรับนักลงทุนสถาบัน นักวิเคราะห์ 5 รายเห็นว่า จะยังคงขายสุทธิใน SET เพื่อทำกำไร จากการที่ตลาดยังคงมีความผันผวน
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th