แท็ก
ลาว
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายวิรัตน์ วัฒนศิริธรรม เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เป็นประธานในการเปิดการศึกษาและดูงานด้านการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการจัดทำแผนงานงบประมาณ สำหรับเจ้าหน้าที่จากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) นำโดยท่าน บุญพวง สุรินทอน รองอธิบดีกรมการลงทุนสาธารณะ
นายวิรัตน์ วัฒนศิริธรรม ได้กล่าวต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่จาก สปป.ลาวว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยินดีที่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดทำแผนพัฒนาประเทศของไทยร่วมกับ สปป.ลาว ซึ่งการจัดรายการศึกษาและดูงานในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสัมมนาและฝึกอบรมระดับปฏิบัติการเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของ สปป.ลาว ซึ่งมีจุดประสงค์ที่สำคัญคือ 1) เพื่อช่วยในการจัดทำแผนคน แผนงาน และการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ 2) การพัมนาการศึกษา การสาธารณสุข และทรัพยากรมนุษย์ 3) การเตรียมตัวของ สปป.ลาว เพื่อเข้าสู่ ASEAN ในปี 1997 และ 4) การปรับปรุงโครงสร้างภาษีอากรของ สปป.ลาว
เลขาธิการฯ ได้กล่าวต่อไปว่าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีหน้าที่หลักในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 เป็นต้นมา สำนักงานฯ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้รับผิดชอบจัดทำแผนพัฒนาประเทศมาแล้ว รวมทั้งสิ้น 8 แผน ซึ่งขณะนี้เป็นระยะเริ่มต้นปีแรกของการใช้แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 (2540-2544) โดยจากการระดมความคิดของประชาชนทั่วทั้งประเทศได้ผลสรุป และเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาประเทศในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 ว่าการพัฒนาประเทศต้องเน้นคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา โดยให้คนทุกคนในสังคมได้รับการพัฒนาให้เต็มตามศักยภาพ มีภูมิปัญญา ความคิดที่จะเป็นผู้ชี้นำกระแสการพัฒนา และเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศในทุกมิติ เน้นศักดิ์ศรีของความเป็นคน มีจิตสำนักและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เน้นการพัฒนาที่มีพื้นฐานบนความเป็นไทย รู้จักตัวเอง รู้จักวัฒนธรรมไทย ไม่ละเลยการพัฒนาเศรษฐกิจ ไม่ทิ้งการพัฒนาอุตสาหกรรม แต่การพัฒนาทุกเรื่องต้องมุ่งให้คนมีความสุข และสามารถแข่งขันในกระแสโลกาภิวัฒน์ได้ โดยไม่ทิ้งสภาพความเป็นไทย รวมทั้งต้องปรับเปลี่ยนวิธีการหรือวิธีคิดของคนไทยจากความคิดเดิมที่เป็นการแยกส่วนมาเป็นแบบบูรณาการ
ในการจัดรายการศึกษาและดูงานให้กับคณะเจ้าหน้าที่จากสปป.ลาวในครั้งนี้ สำนักงานฯ ได้กำหนดขอบเขตของหลักสูตรการศึกษาและดูงานไว้ดังนี้ 1) การดูงาน ณ กระทรวงต่าง ๆ ในการจัดทำแผนทั้งในระดับชาติ และระดับจังหวัด 2) การกำหนดขอบเขตของงาน และความรับผิดชอบในการปฏิบัติงานตามแผนงานและการใช้จ่ายในการลงทุนของภาครัฐบาล 3) การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการวางแผนและการจัดสรรด้านการลงทุนของภาครัฐบาล 4) การศึกษาแผนงานด้านการลงทุนของไทยในสาขาต่าง ๆ
นายวิรัตน์ วัฒนศิริธรรม ได้กล่าวต่อไปว่า ในการดูงานเกี่ยวกับการงานเกี่ยวกับการวางแผนนั้น นอกจากทางคณะเจ้าหน้าที่ สปป.ลาวจะได้ดูงานที่สศช. แล้วยังได้เดินทางไปดูงานการวางแผนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานอีกหลายแห่งในต่างจังหวัดซึ่งการดูงานจะเน้นถึงการพัฒนาชนบทของไทยเป็นหลัก
เลขาธิการฯ ได้กล่าวในตอนท้ายว่า การจัดรายการศึกษาและดูงานในครั้งนี้นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสปป.ลาว โดยการเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการ การแลกเปลี่ยนทัศนคติ และประสบการณ์ระหว่างกันในการพัฒนาด้านต่าง ๆ ระหว่างประเทศไทยและสปป.ลาว นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยส่งเสริมการเตรียมความพร้อมและพัฒนาบุคลากรของเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร และปฏิบัติการของสปป.ลาว ให้มีศักยภาพ และมีประสิทธิภาพในด้านการวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ ติดตามประเมินผล และจัดระบบการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการระหว่างประเทศทั้งสองเพื่อให้โครงการความร่วมมือระหว่างไทย และ สปป.ลาว ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นอันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศทั้งสองต่อไป
--ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 14 ฉบับที่ 2/กุมภาพันธ์ 2540--
นายวิรัตน์ วัฒนศิริธรรม ได้กล่าวต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่จาก สปป.ลาวว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยินดีที่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดทำแผนพัฒนาประเทศของไทยร่วมกับ สปป.ลาว ซึ่งการจัดรายการศึกษาและดูงานในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสัมมนาและฝึกอบรมระดับปฏิบัติการเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของ สปป.ลาว ซึ่งมีจุดประสงค์ที่สำคัญคือ 1) เพื่อช่วยในการจัดทำแผนคน แผนงาน และการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ 2) การพัมนาการศึกษา การสาธารณสุข และทรัพยากรมนุษย์ 3) การเตรียมตัวของ สปป.ลาว เพื่อเข้าสู่ ASEAN ในปี 1997 และ 4) การปรับปรุงโครงสร้างภาษีอากรของ สปป.ลาว
เลขาธิการฯ ได้กล่าวต่อไปว่าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีหน้าที่หลักในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 เป็นต้นมา สำนักงานฯ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้รับผิดชอบจัดทำแผนพัฒนาประเทศมาแล้ว รวมทั้งสิ้น 8 แผน ซึ่งขณะนี้เป็นระยะเริ่มต้นปีแรกของการใช้แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 (2540-2544) โดยจากการระดมความคิดของประชาชนทั่วทั้งประเทศได้ผลสรุป และเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาประเทศในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 ว่าการพัฒนาประเทศต้องเน้นคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา โดยให้คนทุกคนในสังคมได้รับการพัฒนาให้เต็มตามศักยภาพ มีภูมิปัญญา ความคิดที่จะเป็นผู้ชี้นำกระแสการพัฒนา และเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศในทุกมิติ เน้นศักดิ์ศรีของความเป็นคน มีจิตสำนักและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เน้นการพัฒนาที่มีพื้นฐานบนความเป็นไทย รู้จักตัวเอง รู้จักวัฒนธรรมไทย ไม่ละเลยการพัฒนาเศรษฐกิจ ไม่ทิ้งการพัฒนาอุตสาหกรรม แต่การพัฒนาทุกเรื่องต้องมุ่งให้คนมีความสุข และสามารถแข่งขันในกระแสโลกาภิวัฒน์ได้ โดยไม่ทิ้งสภาพความเป็นไทย รวมทั้งต้องปรับเปลี่ยนวิธีการหรือวิธีคิดของคนไทยจากความคิดเดิมที่เป็นการแยกส่วนมาเป็นแบบบูรณาการ
ในการจัดรายการศึกษาและดูงานให้กับคณะเจ้าหน้าที่จากสปป.ลาวในครั้งนี้ สำนักงานฯ ได้กำหนดขอบเขตของหลักสูตรการศึกษาและดูงานไว้ดังนี้ 1) การดูงาน ณ กระทรวงต่าง ๆ ในการจัดทำแผนทั้งในระดับชาติ และระดับจังหวัด 2) การกำหนดขอบเขตของงาน และความรับผิดชอบในการปฏิบัติงานตามแผนงานและการใช้จ่ายในการลงทุนของภาครัฐบาล 3) การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการวางแผนและการจัดสรรด้านการลงทุนของภาครัฐบาล 4) การศึกษาแผนงานด้านการลงทุนของไทยในสาขาต่าง ๆ
นายวิรัตน์ วัฒนศิริธรรม ได้กล่าวต่อไปว่า ในการดูงานเกี่ยวกับการงานเกี่ยวกับการวางแผนนั้น นอกจากทางคณะเจ้าหน้าที่ สปป.ลาวจะได้ดูงานที่สศช. แล้วยังได้เดินทางไปดูงานการวางแผนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานอีกหลายแห่งในต่างจังหวัดซึ่งการดูงานจะเน้นถึงการพัฒนาชนบทของไทยเป็นหลัก
เลขาธิการฯ ได้กล่าวในตอนท้ายว่า การจัดรายการศึกษาและดูงานในครั้งนี้นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสปป.ลาว โดยการเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการ การแลกเปลี่ยนทัศนคติ และประสบการณ์ระหว่างกันในการพัฒนาด้านต่าง ๆ ระหว่างประเทศไทยและสปป.ลาว นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยส่งเสริมการเตรียมความพร้อมและพัฒนาบุคลากรของเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร และปฏิบัติการของสปป.ลาว ให้มีศักยภาพ และมีประสิทธิภาพในด้านการวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ ติดตามประเมินผล และจัดระบบการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการระหว่างประเทศทั้งสองเพื่อให้โครงการความร่วมมือระหว่างไทย และ สปป.ลาว ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นอันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศทั้งสองต่อไป
--ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 14 ฉบับที่ 2/กุมภาพันธ์ 2540--