แท็ก
เอเชีย
นายณรงค์ นิตยาพร รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยถึงความก้าวหน้าการดำเนินงานตามโครงการความช่วยเหลือทางวิชาการจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียเพื่อเสริมสร้างการปฏิรูปทางสังคม
รองเลขาธิการฯ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการโครงการดังกล่าว กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) จึงได้แสดงเจตจำนงที่จะให้เงินกู้แก่ประเทศไทย โดยส่วนหนึ่งเพื่อปรับโครงสร้างทางสังคม พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานฯ จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการโครงการความช่วยเหลือทางวิชาการเพื่อเสริมสร้างการปฏิรูปทางสังคมขึ้นเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว โดยมีบริษัท THE BROOKER GROUP ร่วมกับ THE DEVELOPMENT ALTERNATIVE และศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นคณะที่ปรึกษา ซึ่งมีระยะเวลาการดำเนินงานตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2541 - เมษายน 2542
ภายใต้โครงการฯ นี้ประกอบด้วยการดำเนินงาน 3 องค์ประกอบ ได้แก่
1) การเสริมสร้างสมรรถนะในการวางแผนและบริหารจัดการของ สศช.
2) การประเมินผลกระทบภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจที่มีต่อสังคม
3) การเสริมสร้างการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสารด้านตลาดแรงงาน
สำหรับความก้าวหน้าของการดำเนินงานที่ผ่านมาในแต่ละองค์ประกอบ สรุปผลได้ดังนี้
1. การเสริมสร้างสมรรถนะในการวางแผนและบริหารจัดการของ สศช.
สำนักงานฯ ร่วมกับคณะที่ปรึกษาได้จัดทำ NEEDS ASSESSMENT โดยการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงทั้งใน สศช. และหน่วยงานกลางที่เกี่ยวข้อง จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก สศช. เพื่อระดมความคิดเกี่ยวกับหลักสูตรการฝึกอบรมที่ต้องการเพื่อนำไปสู่การพัฒนาองค์กร ฯลฯ และได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ของ สศช. จากทุกสายงานใน 6 หลักสูตร ได้แก่ การบริหารการเปลี่ยนแปลงขององค์กร การสร้างองค์กรการเรียนรู้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การพัฒนาเครือข่ายภาคี การพัฒนาการทำงานเป็นทีม และการติดตามผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่มีต่อสังคม
จากการประชุมเชิงปฏิบัติการทั้ง 6 ครั้งดังกล่าว ผลที่ได้รับคือแผนปฏิบัติการในแต่ละเรื่อง และได้คัดเลือกตัวแทนที่เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการของแต่ละการประชุม หรือ CHANGE AGENT ประมาณ 25 คน ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา CHANGE AGENTS ได้ทำการบูรณาการแผนปฏิบัติการทั้ง 6 เรื่องเข้าด้วยกันเป็นแผนปฏิบัติการในการเสริมสร้างสมรรถนะในด้านการวางแผนและบริหารจัดการของ สศช.
2. การประเมินผลกระทบของภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจที่มีต่อสังคม ประกอบด้วยการดำเนินงานใน 3 ส่วน คือ
(1) การติดตามผลกระทบของภาวะวิกฤตที่มีต่อสังคมได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นโดยการสำรวจภาคสนาม และการทำ FOCUS GROUP เรียบร้อยแล้ว ในขณะเดียวกันได้ศึกษาเครื่องชี้วัดทางสังคมที่เหมาะสมในการชี้ผลกระทบด้วย ขณะนี้จัดทำร่างรายงานขั้นสุดท้ายเสร็จแล้ว
(2) การจัดทำ HOME PAGE ข้อมูลทางด้านสังคม ในระบบ HOME PAGE ของ สศช. และขณะเดียวกันสายงานพัฒนาคนและสังคมกำลังพัฒนาฐานข้อมูลด้านคนและสังคม
(3) การจัดทำจดหมายข่าวรายไตรมาสโครงการเงินกู้จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียเพื่อปรับโครงสร้างทางสังคมโดยได้ออกจดหมายข่าวไปแล้วทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
3. การเสริมสร้างการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสารด้านตลาดแรงงาน มีการดำเนินงาน 2 กิจกรรมหลัก คือ
(1) การจัดทำแผนปฏิบัติการระบบบริหารจัดการข้อมูล การจ้างงานแห่งชาติ (NEMIS) และโครงการนำร่องระบบแจ้งเตือนการว่างงาน (EARLY WARNING SYSTEM FOR UNEMPLOYMENT) ขณะนี้ได้ทบทวนข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังจัดเตรียมสร้างกรอบการวิเคราะห์ความต้องการตลาดแรงงาน การดำเนินการในขั้นต่อไปจะทำการติดตั้งระบบนำร่อง การแจ้งเตือนการว่างงานที่ สศช.
(2) การทบทวนนโยบายแรงงานและค่าจ้าง โดยได้สัมภาษณ์ FOCUS GROUP จัดประชุมเชิงปฏิบัติการไตรภาคีและจัดทำร่างรายงานขั้นสุดท้ายส่งให้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมพิจารณาและประสานจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อปรับปรุงขีดความสามารถในการแข่งขันของแรงงาน เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในต้นเดือนพฤษภาคม ศกนี้ ต่อไป
--ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 16 ฉบับที่ 4/เมษายน 2542--
รองเลขาธิการฯ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการโครงการดังกล่าว กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) จึงได้แสดงเจตจำนงที่จะให้เงินกู้แก่ประเทศไทย โดยส่วนหนึ่งเพื่อปรับโครงสร้างทางสังคม พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานฯ จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการโครงการความช่วยเหลือทางวิชาการเพื่อเสริมสร้างการปฏิรูปทางสังคมขึ้นเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว โดยมีบริษัท THE BROOKER GROUP ร่วมกับ THE DEVELOPMENT ALTERNATIVE และศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นคณะที่ปรึกษา ซึ่งมีระยะเวลาการดำเนินงานตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2541 - เมษายน 2542
ภายใต้โครงการฯ นี้ประกอบด้วยการดำเนินงาน 3 องค์ประกอบ ได้แก่
1) การเสริมสร้างสมรรถนะในการวางแผนและบริหารจัดการของ สศช.
2) การประเมินผลกระทบภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจที่มีต่อสังคม
3) การเสริมสร้างการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสารด้านตลาดแรงงาน
สำหรับความก้าวหน้าของการดำเนินงานที่ผ่านมาในแต่ละองค์ประกอบ สรุปผลได้ดังนี้
1. การเสริมสร้างสมรรถนะในการวางแผนและบริหารจัดการของ สศช.
สำนักงานฯ ร่วมกับคณะที่ปรึกษาได้จัดทำ NEEDS ASSESSMENT โดยการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงทั้งใน สศช. และหน่วยงานกลางที่เกี่ยวข้อง จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก สศช. เพื่อระดมความคิดเกี่ยวกับหลักสูตรการฝึกอบรมที่ต้องการเพื่อนำไปสู่การพัฒนาองค์กร ฯลฯ และได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ของ สศช. จากทุกสายงานใน 6 หลักสูตร ได้แก่ การบริหารการเปลี่ยนแปลงขององค์กร การสร้างองค์กรการเรียนรู้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การพัฒนาเครือข่ายภาคี การพัฒนาการทำงานเป็นทีม และการติดตามผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่มีต่อสังคม
จากการประชุมเชิงปฏิบัติการทั้ง 6 ครั้งดังกล่าว ผลที่ได้รับคือแผนปฏิบัติการในแต่ละเรื่อง และได้คัดเลือกตัวแทนที่เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการของแต่ละการประชุม หรือ CHANGE AGENT ประมาณ 25 คน ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา CHANGE AGENTS ได้ทำการบูรณาการแผนปฏิบัติการทั้ง 6 เรื่องเข้าด้วยกันเป็นแผนปฏิบัติการในการเสริมสร้างสมรรถนะในด้านการวางแผนและบริหารจัดการของ สศช.
2. การประเมินผลกระทบของภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจที่มีต่อสังคม ประกอบด้วยการดำเนินงานใน 3 ส่วน คือ
(1) การติดตามผลกระทบของภาวะวิกฤตที่มีต่อสังคมได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นโดยการสำรวจภาคสนาม และการทำ FOCUS GROUP เรียบร้อยแล้ว ในขณะเดียวกันได้ศึกษาเครื่องชี้วัดทางสังคมที่เหมาะสมในการชี้ผลกระทบด้วย ขณะนี้จัดทำร่างรายงานขั้นสุดท้ายเสร็จแล้ว
(2) การจัดทำ HOME PAGE ข้อมูลทางด้านสังคม ในระบบ HOME PAGE ของ สศช. และขณะเดียวกันสายงานพัฒนาคนและสังคมกำลังพัฒนาฐานข้อมูลด้านคนและสังคม
(3) การจัดทำจดหมายข่าวรายไตรมาสโครงการเงินกู้จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียเพื่อปรับโครงสร้างทางสังคมโดยได้ออกจดหมายข่าวไปแล้วทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
3. การเสริมสร้างการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสารด้านตลาดแรงงาน มีการดำเนินงาน 2 กิจกรรมหลัก คือ
(1) การจัดทำแผนปฏิบัติการระบบบริหารจัดการข้อมูล การจ้างงานแห่งชาติ (NEMIS) และโครงการนำร่องระบบแจ้งเตือนการว่างงาน (EARLY WARNING SYSTEM FOR UNEMPLOYMENT) ขณะนี้ได้ทบทวนข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังจัดเตรียมสร้างกรอบการวิเคราะห์ความต้องการตลาดแรงงาน การดำเนินการในขั้นต่อไปจะทำการติดตั้งระบบนำร่อง การแจ้งเตือนการว่างงานที่ สศช.
(2) การทบทวนนโยบายแรงงานและค่าจ้าง โดยได้สัมภาษณ์ FOCUS GROUP จัดประชุมเชิงปฏิบัติการไตรภาคีและจัดทำร่างรายงานขั้นสุดท้ายส่งให้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมพิจารณาและประสานจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อปรับปรุงขีดความสามารถในการแข่งขันของแรงงาน เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในต้นเดือนพฤษภาคม ศกนี้ ต่อไป
--ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 16 ฉบับที่ 4/เมษายน 2542--